
รู้จักการทำหมันหญิง วิธีคุมกำเนิดสำหรับคุณผู้หญิงที่มีประสิทธิภาพสูง แบ่งเป็นการทำหมันแห้งและทำหมันเปียก พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังทำหมันอย่างถูกต้อง
การทำหมัน ถือเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงวิธีหนึ่ง สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง อีกทั้งยังประหยัด ปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของทั้งสองฝ่ายด้วย หากคุณผู้หญิงท่านใดกำลังวางแผนจะทำหมัน และอยากศึกษาข้อมูลการทำหมันสำหรับผู้หญิงเพิ่มเติม สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการทำหมันหญิงได้ในบทความนี้
การทำหมันหญิงคืออะไร ?
การทำหมันหญิง หรือ Female Sterilization คือ การคุมกำเนิดวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 99% และเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยแพทย์จะทำการผูก รัด หนีบ หรือทำลายบางส่วนของท่อนำไข่ เพื่อให้ท่อนำไข่เกิดการอุดตัน อสุจิจึงไม่สามารถเดินทางมาปฏิสนธิกับไข่จนก่อให้เกิดการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ได้ โดยก่อนตัดสินใจทำหมัน คู่สมรสควรปรึกษาและวางแผนร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชีวิตครอบครัวตามมาในภายหลัง และก่อนทำหมัน แพทย์จะทำการตรวจให้แน่ใจอีกครั้งว่าร่างกายไม่ได้อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์
ผู้ที่เหมาะกับการทำหมันหญิง
- ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดแบบถาวร
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ซึ่งอาจส่งผลกระทบและเป็นอันตรายต่อร่างกายหากตั้งครรภ์
- ผู้ที่ไม่อยากมีลูก เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะส่งต่อโรคทางพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูก
การทำหมันหญิงมีกี่แบบ ?
ปัจจุบัน การทำหมันสำหรับเพศหญิงแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักด้วยกัน ได้แก่ การทำหมันแบบเปียก และการทำหมันแบบแห้ง โดยแต่ละประเภทมีรายละเอียดที่ควรรู้ ดังนี้
1. การทำหมันแบบเปียก
การทำหมันแบบเปียก หรือ Postpartum เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการทำหมันหลังคลอด โดยจะทำภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังคลอด หรือหากทำหลังจากนั้น ก็ต้องไม่เกิน 7 วันหลังคลอด ข้อดีของวิธีนี้คือสะดวกและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน อีกทั้งหลังการคลอดบุตร มดลูกยังมีขนาดใหญ่และอยู่ในช่องท้องเหนืออุ้งเชิงกราน จึงทำให้แพทย์หาท่อนำไข่เพื่อผูกและตัดได้ง่าย ซึ่งแผลผ่าตัดทำหมันประเภทนี้จะอยู่บริเวณใต้สะดือ ยาวเพียง 2-5 เซนติเมตรเท่านั้น หรือหากคลอดด้วยการผ่าตัด แพทย์ก็สามารถทำหมันหลังผ่าคลอดได้เลย
2. การทำหมันแบบแห้ง
การทำหมันแบบแห้ง หรือ Interval Sterilization เป็นการทำหมันในช่วงเวลาใดก็ได้ตามที่ต้องการ โดยส่วนมากมักทำช่วงหลังจากมีประจำเดือนแล้ว เพื่อเพิ่มความแน่ใจว่าไม่ได้อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ แต่กรณีนี้ มดลูกจะอยู่ในตำแหน่งปกติ คือในอุ้งเชิงกราน จึงทำให้การผ่าตัดและหาท่อนำไข่ยากกว่าการทำหมันแบบเปียก โดยแพทย์จะผ่าตัดเปิดหน้าท้องเหนือกระดูกหัวหน่าวเพื่อผูกและตัดท่อนำไข่ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30 นาที และต้องให้ยาสลบด้วย
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะทำหมันด้วยวิธีไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ คือคุณต้องแจ้งแพทย์ก่อนทำหมันว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ หรือมียาและอาหารเสริมที่รับประทานอยู่เป็นประจำหรือไม่ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน
การทำหมันหญิงกับข้อดี–ข้อเสียที่ควรรู้
หากคุณผู้หญิงคนไหนยังลังเลว่าจะทำหมันดีหรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เรามีข้อดีและข้อเสียของการทำหมันหญิงมาแนะนำ
ข้อดีของการทำหมันหญิง
- มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงถึง 99%
- ไม่มีผลข้างเคียงด้านร่างกายและอารมณ์เหมือนการคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมน
- ไม่ส่งผลกระทบต่อการมีเพศสัมพันธ์
- ไม่ส่งผลกระทบต่อการให้นมบุตร
- หากทำหมันแล้วต้องการมีบุตร สามารถผ่าตัดเพื่อแก้หมันหรือใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์อื่น ๆ ช่วยให้ตั้งครรภ์สำเร็จได้ เช่น การทำ IVF การทำ ICSI
ข้อเสียของการทำหมันหญิง
- อาจเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนขณะผ่าตัด รวมทั้งผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ ทำให้มีอาการคลื่นไส้และอ่อนเพลีย
- ไม่มีวิธีใดสามารถคุมกำเนิดได้ 100% ดังนั้น แม้จะทำหมันแล้ว ก็มีโอกาสที่จะเกิดภาวะหมันหลุด นำไปสู่การปฏิสนธิและเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- หลังการทำหมัน อาจเกิดพังผืดบริเวณที่แพทย์ตัดและผูกท่อนำไข่ ทำให้รู้สึกปวดท้องน้อยได้
วิธีดูแลตัวเองหลังทำหมันหญิง
ไม่ว่าจะทำหมันแบบเปียกหรือทำหมันแบบแห้ง สิ่งสำคัญที่คุณผู้หญิงต้องเอาใจใส่คือ การดูแลตัวเองหลังทำหมัน โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ตามแนวทางปฏิบัติเหล่านี้
- ระมัดระวังไม่ให้แผลผ่าตัดถูกน้ำ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณแผลผ่าตัด จนกว่าจะแน่ใจว่าแผลหายสนิทแล้ว เช่น การยกของหนัก การออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงเยอะ
- งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 7 วันสำหรับผู้ที่ทำหมันแห้ง และ 4-6 สัปดาห์สำหรับผู้ที่ทำหมันเปียก
- หมั่นสังเกตอาการและความผิดปกติอื่น ๆ เช่น อาการปวดท้องน้อย ภาวะประจำเดือนขาด แผลผ่าตัดมีเลือดไหล ซึ่งหากพบความผิดปกติ ควรไปพบแพทย์โดยเร็วจะเป็นการดีที่สุด
สำหรับคุณผู้หญิงที่สนใจแพ็กเกจผ่าคลอดพร้อมทำหมัน หรือแพ็กเกจฝากครรภ์และคลอดของโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกาย
รวมถึงวางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพได้ที่เบอร์ 02-793-5000
ดูแลคุณแม่มือใหม่และลูกรักโดยทีมสูตินรีแพทย์และกุมารแพทย์ผู้ชำนาญการ พร้อมเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล