4 วิธีตรวจครรภ์: จุดเริ่มต้นสู่วันที่ได้เป็นคุณแม่เต็มตัว

20 ส.ค. 2567 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

ชวนว่าที่คุณแม่มือใหม่เช็กสัญญาณที่บ่งบอกว่าเราอาจกำลังตั้งครรภ์ พร้อมแนะนำ 4 วิธีตรวจครรภ์ เพื่อช่วยให้ว่าที่คุณแม่เตรียมพร้อมสู่การตั้งครรภ์อย่างสมบูรณ์



สำหรับผู้หญิงคนไหนที่ได้พยายามมีลูกด้วยวิธีต่าง ๆ กับคนรักมาแล้วระยะหนึ่ง เมื่อถึงวันที่ประจำเดือนขาดไป ก็อาจเป็นสัญญาณว่าเรากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการ ‘ตั้งครรภ์’ ซึ่งการที่เราจะรู้ให้แน่ชัดนั้น ก็จะต้องอาศัยการตรวจครรภ์ ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถทำได้ด้วยกันถึง 4 วิธี บทความนี้ชวนมารู้จักกับ 4 วิธีตรวจครรภ์ เพื่อยืนยันถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นแม่ มาดูกันว่าทั้ง 4 วิธีมีอะไรบ้าง

 

สัญญาณที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์

  • ประจำเดือนไม่มาตามกำหนด
  • รู้สึกไม่สบายตัว และมีอาการผิดปกติที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แม้จะได้กลิ่นที่คุ้นเคย
  • หน้าอกมีการเปลี่ยนแปลง เช่น รู้สึกเจ็บ คัด ตึงที่หน้าอก หรือ หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น
  • มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • อารมณ์แปรปรวนง่าย
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อยากนอนตลอดเวลา
  • ปัสสาวะบ่อย

 

4 วิธีตรวจครรภ์ที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้จัก

  • วิธีตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง

สำหรับใครที่เริ่มรู้สึกถึงอาการผิดปกติของร่างกาย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ วิธีตรวจครรภ์ที่สามารถทำได้โดยเร็วที่สุด ก็คือการตรวจด้วยตัวเอง โดยการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อ ได้แก่ ชุดตรวจครรภ์แบบจุ่ม และ ชุดตรวจครรภ์แบบปากกา

 

  • วิธีตรวจครรภ์แบบจุ่ม 

ชุดตรวจครรภ์แบบจุ่ม ประกอบด้วย ถ้วยตวงปัสสาวะ และ แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ วิธีใช้คือ ให้เราปัสสาวะใส่ลงไปในถ้วยตวง จากนั้นใช้แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์จุ่มลงไป โดยระวังไม่จุ่มเกินขีดที่ระบุไว้บนแผ่นทดสอบ ทิ้งไว้ประมาณ 3 วินาทีจึงนำขึ้น จากนั้นวางทิ้งไว้และรอประมาณ 5 นาที จึงสามารถอ่านผลการทดสอบได้

 

  • วิธีตรวจครรภ์แบบปากกา

ชุดตรวจครรภ์แบบปากกา คืออีกหนึ่งวิธีตรวจครรภ์ด้วยตัวเองที่สะดวกและใช้งานง่าย เป็นอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีรูปทรงคล้ายกับปากกา วิธีใช้คือ ถือแท่งตรวจครรภ์ให้ด้านที่มีลูกศรทิ่มลงบนพื้น จากนั้นปัสสาวะผ่านให้โดนบริเวณที่อยู่ต่ำกว่าลูกศร โดยควรปัสสาวะประมาณ 5-30 วินาที เพื่อให้แท่งตรวจครรภ์ชุ่มเพียงพอ จากนั้นนำไปวางพักในแนวราบ และรอประมาณ 5 นาที จึงสามารถอ่านผลการตรวจได้

 

  • ตรวจภายในห้องปฏิบัติการ

วิธีตรวจครรภ์ภายในห้องปฏิบัติการ เป็นวิธีที่คล้ายคลึงกับการที่เราตรวจด้วยตัวเอง โดยเราจะต้องทำการปัสสาวะใส่ในภาชนะที่ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมอบให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำปัสสาวะที่ได้ไปตรวจภายในห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาล ซึ่งโดยส่วนมากแล้วมักจะเป็นการตรวจแบบจุ่ม และมีการอ่านค่าโดยนักเทคนิคการแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

 

  • ตรวจด้วยการเจาะเลือด

สำหรับว่าที่คุณแม่คนไหนที่ตรวจด้วยตัวเองแล้วแต่ยังไม่มั่นใจในผลลัพธ์ วิธีตรวจครรภ์ด้วยการเจาะเลือด ถือเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ เพราะเป็นการตรวจที่มีความแม่นยำสูงที่สุด โดยวิธีนี้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์แรกหลังมีการปฏิสนธิ ช่วยให้คุณแม่และคุณพ่อวางแผนเตรียมตัวเพื่อดูแลครรภ์ให้สมบูรณ์ได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม

 

  • ตรวจด้วยการอัลตราซาวนด์

อีกหนึ่งวิธีตรวจครรภ์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถบ่งบอกถึงรายละเอียดที่สำคัญได้อย่างครบถ้วน ก็คือการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ โดยเป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในช่องท้อง และแสดงภาพออกมาบนหน้าจอ เพื่อให้สูตินรีแพทย์สามารถอ่านผลลัพธ์ต่าง ๆ ได้ วิธีนี้จะช่วยให้รู้ถึงตำแหน่งการตั้งครรภ์ ว่าเป็นการตั้งครรภ์ในมดลูกหรือนอกมดลูก ทั้งยังสามารถตรวจหาความผิดปกติต่าง ๆ ได้ เช่น ถุงน้ำในรังไข่ หรือ เนื้องอกในมดลูก ซึ่งหากอายุครรภ์ครบ 4 เดือน คุณแม่ก็สามารถเข้ารับการตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อระบุเพศของลูกน้อย และตรวจคัดกรองความเสี่ยงของภาวะพิการต่าง ๆ ได้อีกด้วย

 

ที่ตรวจครรภ์และภาพอัลตราซาวนด์

ทำอย่างไรเมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์?

  • ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล

เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าตั้งครรภ์ สิ่งแรกที่ว่าที่คุณแม่ต้องทำ คือการเข้าฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล เพื่อให้คุณหมอซักประวัติ ตรวจร่างกายโดยรวม และทำการนับอายุครรภ์ เพื่อแจ้งข้อควรปฏิบัติที่เหมาะสมกับช่วงอายุครรภ์ให้คุณแม่ทราบ ซึ่งว่าที่คุณแม่เองก็จะได้ทำความเข้าใจถึงอาการที่จะเกิดขึ้นในแต่ละระยะ เพื่อให้สามารถหาวิธีรับมือได้อย่างเหมาะสมจนถึงวันคลอด

 

  • ดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม 

หลังจากเข้ารับการตรวจครรภ์และฝากครรภ์เรียบร้อยแล้ว ตัวคุณแม่เองก็ต้องเริ่มดูแลตัวเองเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การคลอด โดยควรปรึกษาคุณหมอถึงเรื่องการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายที่เหมาะสม รวมถึงการหมั่นดูแลเรื่องความสะอาด และดูแลสภาพจิตใจให้ห่างไกลจากความเครียด ที่สำคัญก็คือ ควรระมัดระวังในเรื่องของการใช้ยา สารเคมี และเครื่องสำอางต่าง ๆ เป็นพิเศษ เพราะสิ่งที่คุณแม่รับเข้าไปในช่วงนี้ มีโอกาสที่จะส่งต่อไปถึงลูกน้อยในครรภ์ได้สูง หากไม่มั่นใจ ให้ปรึกษาคุณหมอก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวคุณแม่และลูกน้อย

 

เตรียมความพร้อมเพื่อการตั้งครรภ์ที่แข็งแรงและสมบูรณ์ ด้วยแพ็กเกจฝากครรภ์กับโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ดูแลโดยสูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ให้คุณพ่อคุณแม่วางใจตั้งแต่วันที่รู้ตัวว่าตั้งท้องจนถึงวันคลอด

 

จองแพ็กเกจออนไลน์ หรือปรึกษาได้ที่ Call Center 02-793-5000

SHARE
ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ