รู้จักโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน พร้อมสาเหตุและการป้องกัน

25 ม.ค. 2567 | เขียนโดย

รู้จักโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน พร้อมสาเหตุและการป้องกัน

 

รู้ไหม! ว่าโรคหลอดเลือดสมองคือสาเหตุสำคัญอันดับ 3 ของการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นกับประชากรทั่วโลก ซึ่งรองจากโรคหัวใจและโรคมะเร็ง อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่อัตราจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโรคร้ายที่ต้องได้รับการตระหนักรู้ สำหรับทุกเพศทุกวัย

 

ดังนั้น เพื่อให้รู้ทันโรคหลอดเลือดสมองตีบตันกันให้มากขึ้น การรู้ถึงสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองเกิดจากอะไรจึงมีความสำคัญอย่างมาก ชวนคุณมาเช็กสัญญาณเตือนของโรค พร้อมวิธีการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองอย่างถูกวิธี ติดตามกันได้เลย

 

โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร?

 

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) คือ สภาวะที่เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย และร้ายแรงถึงขั้นการทำงานของสมองต้องหยุดชะงักลง โดยสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้

 

โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke)

โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke) คือภาวะที่เกิดจากการมีลิ่มเลือดในบริเวณอื่นไหลไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง รวมถึงหลอดเลือดในสมองมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นเอง และขยายใหญ่ขึ้น จนทำให้เส้นเลือดอุดตันในที่สุด

 

ส่วนสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองตีบอื่น ๆ ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด เมื่อไขมันไปเกาะบริเวณผนังของหลอดเลือด ทำให้พื้นที่ในการไหลเวียนของเลือดตีบและแคบลง จนทำให้ประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดน้อยลงไปด้วย

 

โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke)

โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) คือภาวะที่หลอดเลือดมีความเปราะบาง ประกอบกับผู้ป่วยมีอาการของโรคความดันโลหิตสูง ส่งผลให้เกิดการโป่งพองของหลอดเลือดสมอง และนำไปสู่การเกิดหลอดเลือดสมองแตกได้

 

นอกจากนี้ โรคหลอดเลือดสมองแตกยังมีสาเหตุมาจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น และบอบบางจนฉีกขาดหรือแตกได้ง่ายอีกด้วย
โรคหลอดเลือดสมองแตกนับว่ามีอันตรายร้ายแรงมาก เพราะถ้าหลอดเลือดสมองเกิดแตกขึ้นมาอย่างกะทันหัน จะส่งผลให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมองอย่างเฉียบพลัน ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ในทันที

 

โรคหลอดเลือดสมองเกิดจากอะไร?

 

สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองเกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ดังต่อไปนี้

 

  • หลอดเลือดสมองเสื่อมสภาพ จากอายุที่มากขึ้น
  • มีภาวะการแข็งตัวของเลือดเร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดลิ่มเลือดได้ง่าย และเสี่ยงต่อการอุดตันในหลอดเลือด
  • มีภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้
  • มีภาวะของโรคเบาหวาน ซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น จึงอุดตันและฉีกขาดได้ง่าย
  • มีภาวะของโรคหัวใจ ที่เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดสมองได้
  • มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดไม่แข็งแรง และขาดความยืดหยุ่น เปราะบาง ฉีกขาดง่าย

 

อาการของโรคหลอดเลือดสมองคืออะไร?

 

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนเองเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่นั้น ต้องบอกว่าผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ นับว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงมาก จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการของตนเองอยู่เสมอ รวมถึงคนทั่วไป ก็ไม่ควรลืมสังเกตอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ของตนเองด้วยเช่นกัน ซึ่งอาการของโรคหลอดเลือดสมอง มีดังนี้
มีความรู้สึกชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้า รวมถึงบริเวณแขนขาครึ่งซีกของร่างกาย

 

  • ควบคุมการทำงานของปากได้ไม่เป็นปกติ พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว มุมปากตก น้ำลายไหล กลืนลำบาก
  • รู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะทันทีทันใด
  • ตาพร่ามัว จนมองเห็นภาพซ้อนหรือเห็นครึ่งซีก เกิดภาวะตาบอดข้างเดียวอย่างกะทันหัน
  • เดินไม่ตรง เซไปเซมา ทรงตัวลำบาก

 

การตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองตีบ

การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง

 

ในส่วนของแนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง มีดังนี้

 

  • แนวทางในการรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน คือ การใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด แต่ถ้าหากมีอาการรุนแรงจะใช้วิธีการทำผ่าตัดหลอดเลือดเพื่อนำเอาส่วนของไขมันที่หลอดเลือดออกมา หรือการใส่ขดลวดขยายหลอดเลือดที่ตีบ
  • แนวทางในการรักษาโรคหลอดเลือดแตก คือ การผ่าตัดสมองเพื่อควบคุมปริมาณของเลือดที่ออก และรักษาระดับความดันโลหิต รวมถึงการรักษาด้วยการสวนหลอดเลือดและใช้สารอุดหลอดเลือดที่แตกหรือปริ

 

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

 

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองที่ดีที่สุด คือการควบคุมปัจจัยเสี่ยง ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้

 

  • ตรวจเช็กสุขภาพและคัดกรองโรคเป็นประจำทุกปี
  • ควบคุมระดับความดันโลหิต น้ำตาลในเลือด และไขมัน ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสชาติ หวาน มัน เค็ม มากเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3 ครั้งต่อสัปดาห์

 

สำหรับใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน แตก สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรับการวินิจฉัยเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์โรคระบบประสาทและสมอง โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ หรือติดต่อ Call Center 02-761-9888

 

SHARE
ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ