ทำไมลูกเราถึงเป็นหวัดบ่อยและนานกว่าเด็กคนอื่น

>15 ธ.ค. 2562 | เขียนโดย รพ. เด็กสินแพทย์

ปัญหาการเป็นหวัดบ่อยหรือเป็นหวัดเรื้อรังนั้นพบมากในเด็กวัยที่เริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาล ทำให้ต้องหยุดเรียนและต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ คุณพ่อคุณแม่จึงมีคำถามต่างๆ นานามากมายเกิดขึ้นภายในใจ

 

เป็นหวัดบ่อยขนาดไหนจึงจะถือว่าผิดปกติ

จากผลการศึกษาวิจัยทั้งในและต่างประเทศพบว่า เด็กที่เริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาลมักจะเป็นหวัดเฉลี่ย  8-10 ครั้งต่อปี ซึ่งความถี่ของการเป็นหวัดนี้จะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เมื่อเด็กโตขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าเด็กโตขึ้นปรับตัวกับโรงเรียนได้มากขึ้น  กลไกการป้องกันและกำจัดเชื้อโรคของร่างกายทำงานดีขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรเครียดหรือเป็นกังวลกับการเป็นหวัดของลูกน้อยวัยนี้มากนัก แต่ควรให้การดูแลรักษาตามที่แพทย์แนะนำ และสอนลูกเกี่ยวกับการรักษาสุขอนามัยเวลาเป็นหวัด เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัด การปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจามด้วยกระดาษทิชชู ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในโรงเรียน

 

ธรรมชาติของไข้หวัดเป็นอย่างไร

เมื่อลูกน้อยเป็นหวัดส่วนมากจะมีอาการจาม คัดจมูก มีน้ำมูก เจ็บคอ ไอมีเสมหะ น้ำมูกไหลลงคอ หูอื้อ มีไข้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยอาการไข้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและเจ็บคอมักจะเป็นไม่เกิน 5 วัน ส่วนอาการอื่นๆมักจะหายไปหรือดีขึ้นมากภายในเวลา 7-10 วัน แต่บางครั้งอาการคัดจมูก มีน้ำมูก และไออาจเป็นนานได้ถึง 2-3 สัปดาห์ ซึ่งถึงแม้ว่าน้องจะยังคงมีอาการอยู่แต่ความรุนแรงจะลดน้อย ลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามถ้าหากอาการหวัดของลูกเป็นนานกว่าปกติ หรือไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น ไซนัสอักเสบ ซึ่งต้องได้รับ การรักษาที่จำเพาะ

 

รู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นไซนัสอักเสบ

ไซนัสคือโพรงอากาศในกะโหลกซึ่งอยู่บริเวณรอบจมูกของเรา ภายในไซนัสจะมีเยื่อบุทำหน้าที่สร้างเมือกเช่นเดียวกับเยื่อบุในโพรงจมูก เมือกดังกล่าวจะถูกขับจากไซนัสออกสู่โพรงจมูกผ่านทางรูเปิดเล็กๆ หากรูเปิดบริเวณนี้มีการอุดตัน เช่น เยื่อบุโพรงจมูกบวมหรือมีน้ำมูกข้นเหนียวจากการเป็นหวัด หรือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ จะทำให้ไม่สามารถระบายเมือกออกจากไซนัสได้ส่งผลให้มีการติดเชื้อ ในไซนัสตามมา หรือที่เราเรียกกันว่าโรคไซนัสอักเสบเฉียบพลัน คุณหมอจะสงสัยว่าน้องเป็นโรคนี้เมื่อ

  • เป็นไข้หวัดมา 10 วันแล้วอาการยังไม่หาย หรือ
  • เป็นไข้หวัดมา 5 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นแต่กลับเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ

แพทย์จะให้การวินิจฉัยจากการอาการและการตรวจร่างกายเป็นหลัก แต่ในบางครั้งอาจใช้การตรวจ ทางรังสีหรือที่เราเรียกกันว่าภาพถ่ายเอ็กซ์เรย์มาประกอบการวินิจฉัยด้วย  โรคหรือภาวะบางอย่างอาจทำให้ลูกมีโอกาสเป็นโรคนี้ซ้ำบ่อยๆได้ เช่น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือมีความผิดปกติของโครง สร้างกระดูกบริเวณรูเปิดของโพรงไซนัส เป็นต้น การรักษาโรคหรือแก้ไขภาวะดังกล่าวจะช่วยลดโอกาส ที่จะกลับมาเป็นไซนัสอักเสบซ้ำอีกได้

 

หรือว่าลูกเราจะเป็นภูมิแพ้

โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis) เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ผิดปกติมาทำปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังขึ้นที่เยื่อบุโพรงจมูก น้องที่เป็นโรคนี้จะมีอาการคันจมูก จาม คัดจมูก และมีน้ำมูก บางครั้งอาจมีอาการคันตาหรือไอร่วมด้วย จะเห็นได้ ว่าอาการของโรคแยกยากจากหวัด แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตง่ายๆได้ดังนี้ น้องที่เป็นโรคจมูก อักเสบจากภูมิแพ้มักจะมีอาการเหล่านี้โดยไม่มีไข้ มีน้ำมูกใสหรือขาวขุ่น ไม่ใช่สีเหลืองหรือเขียว มักมี อาการช่วงเช้าหรือก่อนนอน หรือเมื่อเจอสิ่งกระตุ้น เช่น ฝุ่น ควัน หรือสัตว์เลี้ยงบางชนิด โรคนี้มักพบ ในน้องที่มีคุณพ่อคุณแม่หรือพี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้ แต่หากต้องการทราบแน่นอนว่าน้องเป็นโรคนี้หรือไม่ คงต้องอาศัยการทดสอบทางผิวหนังด้วยสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ การตรวจดังกล่าวนอกจากจะช่วยใน การวินิจฉัยโรคแล้วยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ทราบว่าน้องแพ้อะไรและสามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสสาร เหล่านั้นได้อย่างเหมาะสมซึ่งถือว่าเป็นการรักษาโรคอีกทางหนึ่งด้วย

 

พบแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ (คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)

โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์  

โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา 

โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ 

โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์

SHARE