ภาวะอ้วน
คือ เป็น “โรค” โรคหนึ่ง เพราะเป็นภาวะที่หากปล่อยไว้และไม่ได้รับการดูแลแก้ไขตั้งแต่แรกเริ่ม จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นโรคทั้งทางร่างกายและจิตใจ ปัจจุบันอุบัติการณ์ภาวะอ้วนในเด็กไทย มีอัตราเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเด็กก่อนวัยเรียนซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวและควรได้รับการป้องกันแก้ไขตั้งแต่เบื้องต้น
การเจริญเติบโตในเด็กขึ้นกับปัจจัยหลายด้าน เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน ภาวะโภชนาการ โรคทางกายและสภาพแวดล้อมการเลี้ยงดู
การเจริญเติบโตปกติของเด็ก
น้ำหนักตัวจะเป็น 2 เท่า ของน้ำหนักแรกเกิด ® เมื่ออายุ 4-5 เดือน
น้ำหนักตัวจะเป็น 3 เท่า ของน้ำหนักแรกเกิด ® เมื่ออายุ 1 ปี
น้ำหนักตัวจะเป็น 4 เท่า ของน้ำหนักแรกเกิด ® เมื่ออายุ 2 ปี
เด็กวัยก่อนเรียน (อายุ 2-5 ปี) ® น้ำหนักขึ้น ปีละ 2 – 2.5 กิโลกรัม
เด็กวัยเรียน (อายุ 6 ปี ขึ้นไป จนก่อนวัยรุ่น) ® น้ำหนักขึ้น ปีละ 3 – 3.5 กิโลกรัม
อย่างไรเรียกว่าอ้วน
- ดูด้วยตาจะเห็นชัดเจนเมื่อมีภาวะอ้วนค่อนข้างมาก แต่ถ้าอ้วนไม่มากต้องใช้วิธีอื่นช่วย
- ดูน้ำหนักตามเกณฑ์อายุ (Weight for Age) เป็นการดูน้ำหนักตัวเด็กเทียบกับเด็กที่อายุเท่ากัน เมื่อนำค่าน้ำหนักตามเกณฑ์อายุมาจุดที่กราฟการเจริญเติบโต (Growth Chart) จุดที่เหมาะสม คือ Percentile 50-75
- ดูน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูง (Weight for Height) เป็นการดูน้ำหนักตัวที่เหมาะสมเทียบกับความสูงของเด็ก แต่ละคน
- ดูดัชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) เป็นการคำนวณ โดยใช้ ในเด็กยังไม่นิยมใช้ เนื่องจากเด็กยังมีการเปลี่ยนแปลงของส่วนสูงและน้ำหนักต่อปีทุกปี
- การวัดไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งต้องมีเครื่องมือและผู้วัดต้องมีความชำนาญในการใช้เครื่องมือ จึงยังมีข้อจำกัด ในการใช้อยู่
ทำไมจึงอ้วน
ส่วนใหญ่ของเด็กอ้วนมักเป็นการอ้วนชนิดที่ไม่มีสาเหตุ เรียกว่า “Simple Obesity” คือ อ้วนจากการรับประทานอาหารมากเกินไปหรือรับประทานชนิดของอาหารที่ไม่เหมาะสม ร่วมกับมีการออกกำลังน้อยและขาดกิจกรรมที่ทำให้เกิดต้องใช้พลังงาน
อ้วนจากสาเหตุอื่นที่เป็นโรค
พบได้น้อยแต่ไม่ควรละเลย ซึ่งถ้าผู้เลี้ยงดูสงสัยว่าเด็กน่าจะมีโรคที่ทำให้เกิดภาวะอ้วนควรได้รับการพบกุมารแพทย์ เพื่อหาสาเหตุของภาวะอ้วน เช่น
- ความผิดปกติทางต่อมไร้ท่อ
- ความผิดปกติของสมองและระบบประสาท
- กลุ่มอาการเฉพาะต่างๆ
- สาเหตุจากยาบางตัว เช่น สเตียรอยด์ ยาทางจิตเวชบางชนิด
อ้วนกับภาวะแทรกซ้อน
โรคอ้วนทำให้มีภาวะแทรกซ้อนกับร่างกายได้หลายระบบ
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด : ความดันเลือดสูง ระดับไขมันในเลือดสูง ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้(ปัจจุบันพบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดในคนที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ)
- ระบบหายใจ : เด็กอ้วนมักเหนื่อยง่ายเพราะมีไขมันสะสมในช่องอก ช่องท้องมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นขณะนอนหลับได้
- ระบบกระดูกและข้อ : ปวดเข่า ขาโก่ง เดินไม่สวย (เข่าชิดและเสียดสีกันเวลาเดิน)
- ระบบต่อมไร้ท่อ : เกิดเบาหวานชนิดที่ 2 มีประจำเดือนเร็ว
- ระบบทางเดินอาหารและตับ : มีภาวะไขมันพอกตับ ภาวะกรดไหลย้อน
- ระบบผิวหนัง : มีเหงื่อออกมาก ทำให้เกิดความอับชื้นและผื่นบริเวณผิวหนังในรายที่อ้วนมากมักพบผิวหนังที่ต้นคอ รักแร้ เป็นสีคล้ำ ซึ่งมักพบร่วมกับภาวะดื้อต่ออินซูลีน ทำให้เสี่ยงต่อภาวะเบาหวานมากขึ้น
- โรคมะเร็งบางอย่าง : เด็กอ้วนที่โตเป็นผู้ใหญ่อ้วนจะพบโรคมะเร็งบางอย่างสูงกว่าปกติ เช่นมะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งเต้านม มะเร็งตับและมะเร็งตับอ่อน
- ภาวะแทรกซ้อนทางจิตใจ : เด็กอ้วนมักเฉื่อยชา ถูกล้อเลียน พบภาวะเครียด ซึมเศร้า ขาดความมั่นใจไม่กล้าแสดงออก
อ้วนแล้วควรทำอย่างไร
การรักษาภาวะอ้วนเป็นเรื่องยาก เพราะต้องรักษาระยะยาว และต้องการความตั้งใจที่แน่วแน่ อดทน เด็กหลายคนอ้วนจากผู้ใหญ่ทำจึงต้องได้รับความร่วมมือสนับสนุนอย่างดีจากผู้เลี้ยงดูและครอบครัวด้วย
โภชนาการ
- เด็กวัยก่อนเรียน
– ควรดูแลภาวะโภชนาการให้เหมาะสม เช่น เลิกนมมื้อกลางคืน ไม่กินขนมจุบจิบไม่กินน้ำอัดลม
- เด็กวัยเรียน
– ห้ามอดอาหาร เพราะอันตรายต่อร่างกายและยิ่งทำให้เด็กหิวมากจนกินอาหารมากขึ้นในมื้อถัดไป
– รู้จักการควบคุมปริมาณอาหาร ลดแคลอรี่ในอาหารแต่ละมื้อลง ดื่มน้ำเปล่าแทน น้ำหวาน / น้ำอัดลม กินผลไม้แทนขนม
การออกกำลังกาย
- ผู้เลี้ยงดูและครอบครัวควรหากิจกรรมที่ให้เด็กได้เผาผลาญพลังงาน เช่น ช่วยงานบ้าน เดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ ใช้การเดินแทนการนั่งรถ และมีเวลาพาเด็กไปออกกำลังกาย เช่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ กระโดดเชือก เตะฟุตบอล
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- สอนให้เคี้ยวและกินช้าช้า
- ลดกิจกรรมที่ทำให้เด็กไม่เคลื่อนไหว เช่น งดการดูโทรทัศน์ งดการเล่นแท๊บเล็ต
สรุปว่า ภาวะอ้วนในเด็กถ้าไม่ได้รับการป้องกันและดูแลเหมาะสมแล้วจะเกิดปัญหาตามมาในระยะยาวได้ ดังนั้นครอบครัวจึงมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ตั้งแต่การจัดการโภชนาการของเด็กอย่างเหมาะสม มีเวลาพาเด็กไปทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลัง เป็นต้นแบบของพฤติกรรมการกินที่เหมาะสมและกำลังพอดี จึงจะทำให้ดูแลเด็กได้เหมาะสมและไม่นำพาเด็กไปสู่ภาวะอ้วน