ฟันเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างหนึ่งของร่างกาย นอกจากจะใช้บดเคี้ยวอาหารเป็นอวัยวะแรกและเป็นส่วนสำคัญของระบบทางเดินอาหาร ฟันยังทำหน้าที่ช่วยในการออกเสียง และส่งเสริมบุคลิกภาพของเราอีกด้วย
ศูนย์ทันตกรรมโรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์ พร้อมให้บริการ อาทิเช่น
Full Mouth Rehabilitation (การฟื้นฟูสภาพช่องปาก)
การฟื้นฟูสภาพช่องปาก (Oral Rehabilitation) คือการรักษาทางทันตกรรมบูรณะ โดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขความผิดปกติของระบบบดเคี้ยว เพื่อให้สามารถใช้งานได้ดังเดิม ข้อต่อขากรรไกรและกล้ามเนื้อระบบบดเคี้ยวทำงานสัมพันธ์กันอย่างเป็นปกติ ซึ่งการบูรณะนั้นอาจเกิดขึ้นกับฟันเพียงหนึ่งซี่ หรือฟันทุกซี่ในช่องปากก็ได้ ซึ่งผู้ป่วยมักจะพบทันตแพทย์ด้วยปัญหาหลายๆอย่าง อาทิเช่น ฟันสึกจนไม่สามารถจะเคี้ยวอาหารได้ หรือเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด, ฟันรูปร่างไม่สวยงาม, ใบหน้ามีรูปร่างผิดปกติ ซึ่งการรักษาจำเป็นจะต้องวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยทันตแพทย์เฉพาะทางร่วมกับการใช้ภาพถ่ายรังสีประกอบการวินิจฉัยด้วย
ขั้นตอนการรักษาจะเริ่มขึ้นตั้งแต่การพบทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรับคำแนะนำและการตรวจประเมินสภาวะช่องปาก ผู้ป่วยแต่ละคนมีรูปแบบและแนวทางในการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหา ความสามารถในการปรับตัวของผู้ป่วย ความจำเป็นต่อการเข้ารับการรักษาทางทันตกรรมอื่นๆก่อนเข้าสู่ระยะบูรณะฟื้นฟูสภาพช่องปากเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งจะมีผลต่อระยะเวลาทั้งหมดที่ผู้ป่วยต้องใช้เพื่อการรักษา ดังนั้นการป้องกันปัญหาที่จะนำไปสู่การรักษา เพื่อฟื้นฟูสภาพช่องปากคือ
การตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ และพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ 6 เดือน หากมีการสึกของฟันเพียงเล็กน้อยหรือเพิ่งจะสูญเสียฟันไป การได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดภาวะผิดปกติของระบบบดเคี้ยวได้
การทำฟันเด็ก ภายใต้การดมยาสลบ
ศูนย์ทันตกรรมโรงพยาบาลเสรีรักษ์ เพิ่มทางเลือกให้กับการทำฟันในเด็กเล็กที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยและมีแผนการรักษาทางทันตกรรมทั้งปาก โดยทันตแพทย์สำหรับเด็กที่เฉพาะทางในการรักษา และผู้ช่วยทันตแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมในการช่วยเหลือทันตแพทย์ ขณะให้การรักษาทันตกรรมภายใต้การดมยาสลบ
เพราะเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก
เนื่องด้วยเด็กเล็กอยู่ในวัยที่ไม่ให้ความร่วมมือ มีข้อจำกัดในการสื่อสารและการเรียนรู้ การทำฟันภายใต้การดมยาสลบจะช่วยทำให้เด็กไม่ต้องรับรู้ถึงกระบวนทำฟัน ที่ก่อให้เด็กเกิดความกลัวและความเจ็บปวด นอกจากนี้การดมยาสามารถรักษาและฟื้นฟูสุขภาพช่องปากให้กลับมาใช้เคี้ยวอาหารได้ ภายใต้การรักษาในครั้งเดียว ซึ่งส่งผลดีต่อสภาพจิตใจเด็กและผู้ปกครอง มากกว่าการทำฟันปกติ ที่ต้องใช้เวลาในการรักษาแต่ละครั้งเป็นเวลาค่อนข้างนาน และต้องมารับการรักษาหลายครั้งจึงจะครบถ้วนตามแผนการรักษา
ร่างกายที่พร้อมในการดมยา
ก่อนทำการรักษาทางทันตกรรมภายใต้การดมยาสลบ เด็กต้องได้รับการส่งปรึกษากุมารแพทย์ในเรื่องสุขภาพและความแข็งแรง รวมทั้งความพร้อมของร่างกายของเด็กเพื่อทำการดมยาสลบ โดยกุมารแพทย์ต้องตรวจร่างกายและประเมินว่าเด็กมีร่างกายที่พร้อมและสามารถดมยาได้ โดยมีโอกาสเสี่ยงน้อยที่สุด ขณะเดียวกันผู้ปกครองก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมไปถึงเรื่องของการดูแลสุขภาพความสะอาดของฟันและช่องปากของเด็ก ทั้งก่อนและหลังการรักษาทางทันตกรรม ภายใต้การดมยาสลบด้วย
ข้อดีของการดมยาสลบ คืออะไร?
ฟอกสีฟัน
ในปัจจุบันความสวยความงามเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมเสริมเติมแต่งบนใบหน้า ในส่วนของเรื่องฟันขาวก็เป็นความสวยความงามอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ถูกพูดถึงกันมากในปัจจุบัน
การที่มีฟันสีขาวสวยนอกจากจะทำให้ดูสะอาดแล้วยังมีผลทำให้แลดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย ซึ่งนวัตกรรมการทำให้ฟันขาวในปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นไปมาก เทคโนโลยีที่ว่าก็คือ Zoom
เทคโนโลยี ZOOM คืออะไร
เทคโนโลยีการฟอกสีฟันโดยการใช้แสง LED ร่วมกับน้ำยาฟอกสีฟัน ทำให้เกิดการขจัดสีภายในตัวเนื้อฟัน ทำให้ฟันขาวขึ้น ซึ่งจะไม่ได้เป็นการไปทำลายเคลือบฟันหรือกัดกร่อนเนื้อฟันแต่อย่างใด และไม่ส่งผลเสียต่อโครงสร้างฟันตามธรรมชาติ
การฟอกสีฟันทำได้อย่างรวดเร็วในคลินิกทันตกรรม โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
ขั้นตอนการในการฟอกสีฟัน
1.ตรวจฟัน ขัดฟัน และขูดหินปูน ในกรณีที่มีคราบหินปูนและคราบสีบนตัวฟัน
2.เทียบเฉดสีฟันก่อนการรักษา
3.ปกปิดป้องกันเหงือก ริมฝีปาก และแก้ม โดยให้เห็นเฉพาะตัวฟันที่ต้องการฟอกสีเท่านั้น
4.ทาน้ำยาฟอกสีฟันที่ตัวฟัน ร่วมกับการฉายแสง LED Zoom จำนวน 3 รอบ รอบละ 15 นาที ในระหว่างนั้นสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งที่สบายปละกลืนน้ำลายได้ปกติ
5.เมื่อครบกระบวนการ 3 รอบ ทำการประเมินสีฟันหลังการรักษาและทายากันเสียวฟัน
ข้อควรปฏิบัติหลังการฟอกสี
1.หลังการฟอกสีฟัน อาจมีอาการเสียวฟันได้ในบางราย ซึ่งอาการจะหายเองได้ภายใน 24 ชม.
2.หลังฟอกสีฟัน 24 ชม. ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสีทุกชนิด เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มสีเข้ม เช่น น้ำผลไม้ ไวน์แดง รวมถึงอาหารที่มีสี ควรรับประทานอาหารที่มีสีขาว เท่านั้นเช่นต้มจืด
3.หลังฟอกสีฟันควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนหรือเย็นใน 24 ชม.แรก เพราะอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้
*สีฟันที่ถูกปรับให้ขาวขึ้นนั้นจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคน ทั้งนี้ควรมาพบทันตแพทย์ประจำทุกๆ 6 เดือน
การจัดฟัน คืออะไร?
การจัดฟัน เป็นวิธีช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติ ไม่สมดุลให้เรียงตัวกันอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการเรียงตัวของฟัน โดยการใช้เครื่องมือภายนอกและภายในช่องปาก เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการปรับแต่งการเรียงตัวของฟันใหม่ ด้วยเป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป
ใครควรจัดฟันบ้าง?
ผู้ที่มีปัญหาฟันเก ฟันซ้อน หรือฟันยื่นจนไม่สบกัน ปัญหาเหล่านี้จะทำให้ฟันสึกกร่อน เสียหาย หรืออาจทำให้มีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกรได้ ความผิดปกติดังกล่าวอาจพัฒนาจนส่งผลกระทบต่อรูปร่างของใบหน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้วินิจฉัย โดยประเมินจากประวัติการรักษาทางการแพทย์หรือทันตกรรม การตรวจในคลินิก แบบฟันของบุคคลคนนั้น และฟิล์มเอ็กซเรย์
ควรเริ่มจัดฟันเมื่อไหร่?
การจัดฟันสามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยส่วนใหญ่จะเริ่มที่อายุประมาณ 11 – 13 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ฟันแท้ขึ้นครบแล้ว ส่วนระยะเวลาการจัดฟันนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะการเรียงตัวที่ผิดปกติของแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 18 – 24 เดือน แต่ในกรณีที่ผู้ต้องการจัดฟัน มีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป อาจจำเป็นต้องใส่เครื่องมือนานกว่าปกติ และใส่ Retainer ซึ่งเป็นพลาสติกเพื่อช่วยยึดฟันนานกว่าปกติด้วยการจัดฟัน เป็นหนึ่งในวิธีการทางทันตกรรมซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันเก ฟันไม่สบกันแล้ว ยังช่วยปรับโครงหน้าของผู้จัดฟันให้เข้ารูป การจัดฟัน จึงถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษา เสริมสร้างความมั่นใจ และยังช่วยปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้น
การฝังรากฟันเทียม
การฝังรากเทียม คือ การผ่าตัดที่นำเอารากเทียม ซึ่งทำจากโลหะผสมไทเทเนียมฝังลงในตำแหน่งของขากรรไกรภายใต้เหงือก เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ทันตแพทย์จะนำครอบฟัน/ฟันปลอมมายึดติดกับรากเทียม
รากเทียมทำงานได้อย่างไร
รากเทียมจะทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกรเมื่อทั้งสองอย่างประสานกันอย่างสนิทแล้ว จะสามารถให้การรองรับแรงบดเคี้ยวได้ และสามารถช่วยยึดฟันเทียมแบบถอดได้ให้มีการติดแน่นที่ดี
การผ่าตัดเพื่อฝังรากเทียม — เป็นการผ่าตัดเพื่อฝังรากเทียมไปในขากรรไกรโดยตรง และเมื่อรากเทียมและกระดูกโดยรอบยึดด้วยกันแล้ว จึงนำครอบฟัน/สะพานฟัน หรือฟันปลอมถอดได้มายึดหรือสวมทับบนรากเทียมอีกครั้ง