ขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน (Balloon Angioplasty)

15 พ.ย. 2565 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์

ขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนเป็นการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนหรือบอลลูนหัวใจ (Balloon Angioplasty)

เป็นวิธีการขยายหลอดเลือดหัวใจซึ่งได้รับความนิยม เพราะไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์จะสอดสายสวนหัวใจ (Guiding Catheter) ซึ่งเป็นท่อนำสายสวนและใช้บอลลูนเข้าไป  ทางหลอดเลือดแดงที่ขาหรือแขน เมื่อถึงบริเวณที่หลอดเลือดตีบ   แพทย์จะทำการขยายบอลลูนออกไปเบียดคราบไขมันให้แบนราบติดผนังหลอดเลือดเพื่อขยายหลอดเลือดส่วนที่ตีบ ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีขึ้นอีกครั้ง ปัจจุบันแพทย์จะใส่ขดลวดค้ำยัน (stent) เพื่อเสริมความแข็งแรงในการขยายหลอดเลือดหัวใจตรงตำแหน่งที่ใช้บอลลูนขยาย ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการรักษาดีมากขึ้น

ขดลวด (Stent) เป็นอุปกรณ์พิเศษ มีลักษณะเป็นโครงตาข่าย ผลิตจากโลหะชนิดพิเศษที่เคลือบยาเพื่อป้องกันการตีบซ้ำของหลอดเลือดหัวใจ

 

ข้อดีของการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน

1.แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก

2.พักฟื้น 1-2 วัน กลับบ้านได้

 

ประโยชน์ในการทำหัตถการ

วัตถุประสงค์ของการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนคือเพื่อดันไขมันที่อุดตันหลอดเลือดอยู่ให้ไปชิดกับผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดสามารถไหลผ่านจุดที่เคยตีบหรือตันได้สะดวกมากขึ้น เมื่อเลือดไหลผ่านได้ดีขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บหน้าอกน้อยลง

หายใจได้เต็มที่ขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการลดการตีบกลับทันที รักษาการฉีกขาดของหลอดเลือด ช่วยลดอัตราการตีบซ้ำและป้องกันการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดได้

ความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อน และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำหัตถการและระหว่างพักฟื้นหลังทำหัตถการ

ความเสี่ยงจากกระบวนการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและใส่ขดลวด ได้แก่

  • มีเลือดออก ติดเชื้อและปวดบริเวณที่ใส่สายสวน
  • เกิดลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือเส้นเลือดในสมองตีบ
  • หลอดเลือดเกิดตีบขึ้นใหม่
  • หลอดเลือดได้รับความเสียหาย
  • แพ้สารทึบรังสีที่ใช้ในกระบวนการ
  • ไตมีปัญหาจากการขับสารทึบรังสีออกจากร่างกาย
  • มีของเหลวคั่งรอบหัวใจ
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • เสียชีวิต

โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีอาการข้อหนึ่งข้อใดดังต่อไปนี้

  • วิงเวียนศีรษะ
  • หายใจติดขัด
  • คลื่นไส้
  • ปวดหลัง
  • แน่นหน้าอก
  • จุดที่ใส่สายสวนมีเลือดออก เกิดรอยช้ำขึ้นใหม่ หรือบวม
  • มีอาการที่เป็นสัญญาณว่าติดเชื้อ เช่น แผลแดง มีน้ำเหลืองหรือมีไข้

โอกาสสำเร็จจากการทำหัตถการ

แพทย์จะอธิบายถึงอัตราการเสี่ยงและผลดีผลเสีย โอกาสสำเร็จจากการทำหัตถการ กรณีสงสัยควรปรึกษาแพทย์

SHARE
ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ