
ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ Dehydration and Electrolyte Imbalance
ในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายของคนเราจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในปริมาณมากโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ระบบร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ดีเท่าคนวัยหนุ่มสาว “ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่” จึงกลายเป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่ภาวะรุนแรงหากไม่ระวัง
ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) คือ ภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ได้รับ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเลือดลดลง ซึ่งจำเป็นต่อการไหลเวียนของเลือด การควบคุมอุณหภูมิ และการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
ภาวะขาดเกลือแร่ (Electrolyte Imbalance) คือ การเสียสมดุลของเกลือแร่จำเป็น เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาท หัวใจ และกล้ามเนื้อ หากขาดมากอาจมีผลต่อชีวิตได้
ทำไมผู้สูงอายุจึงเสี่ยงมากกว่าคนวัยอื่น
-
กลไกกระหายน้ำลดลง ทำให้ไม่รู้สึกกระหายน้ำแม้ร่างกายขาดน้ำ
-
ไตทำงานลดลง ไม่สามารถเก็บรักษาน้ำได้ดีเท่าเดิม
-
ใช้ยาขับปัสสาวะหรือยาลดความดัน ทำให้ร่างกายเสียของเหลวมากขึ้น
-
เคลื่อนไหวลำบาก ทำให้อาจไม่สามารถหาน้ำดื่มได้ทันที
-
มีโรคประจำตัวหลายอย่าง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ที่ส่งผลต่อความสมดุลของน้ำและเกลือแร่
อาการเตือนว่าร่างกายกำลังขาดน้ำและเกลือแร่
- รู้สึกกระหายน้ำมากผิดปกติ
-
ปากแห้ง ลิ้นแห้ง ผิวไม่ยืดหยุ่น
-
อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ลุกแล้วหน้ามืด
-
ปัสสาวะน้อยลง สีเข้ม
-
รู้สึกสับสน พูดไม่รู้เรื่อง (โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ)
- ชีพจรเต้นเร็ว หายใจหอบถี่
แนวทางการป้องกัน
-
ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ: ไม่รอให้กระหาย แนะนำให้จิบน้ำทุก 1-2 ชั่วโมง
-
หลีกเลี่ยงแดดจัด: อยู่ในที่ร่มหรือห้องแอร์เมื่ออากาศร้อน
-
สวมเสื้อผ้าบาง ระบายอากาศดี
-
หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ
-
รับประทานอาหารที่มีน้ำ เช่น ผลไม้ ซุป
-
ตรวจสอบยาที่ใช้อยู่ ว่ามีผลต่อการขับน้ำหรือไม่
-
หมั่นสังเกตอาการ หากมีความเปลี่ยนแปลงควรปรึกษาแพทย์ทันที