โรคหอบหืด: สาเหตุ อาการ และการป้องกัน

10 มิ.ย. 2567 | เขียนโดย รพ. สินแพทย์ ลำลูกกา

โรคหอบหืด: สาเหตุ อาการ และการป้องกัน

โรคหอบหืด หนึ่งในโรคเรื้อรังที่หลายคนมักละเลยมากที่สุด เพราะด้วยอาการของโรคที่มักมาเป็นพัก ๆ ไม่ได้เป็นอยู่ตลอด และบางคนอาจไม่ทันได้สังเกตว่าตนเองกำลังเป็นโรคนี้ เพราะระยะเริ่มแรกอาจมีแค่อาการเหนื่อยง่ายเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วโรคนี้ถือเป็นโรคที่รุนแรง เพราะหากอาการกำเริบเฉียบพลัน อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

บทความนี้ชวนมารู้จักกับโรคหอบหืด ทั้งสาเหตุและอาการที่ควรระวัง พร้อมแนวทางการป้องกันไม่ให้โรคกำเริบรุนแรง

 

โรคหอบหืด คืออะไร?

โรคหอบหืด (Asthma) คือ หนึ่งในโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ และไอเรื้อรัง

โรคหอบหืด เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงเฝ้าระวังและหาวิธีป้องกันเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพน้อยที่สุด ดังนั้น ผู้ป่วยจึงต้องคอยสังเกตอาการหอบหืดอย่างใกล้ชิด และหมั่นปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสที่อาการจะถูกกระตุ้นให้กำเริบ

 

อาการของโรคหอบหืด

  • ไอเรื้อรังและมีเสมหะ โดยเฉพาะตอนออกกำลังกายหรือตอนกลางคืน
  • หายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด หายใจมีเสียงหวีด
  • แน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ

โดยปกติแล้ว อาการหอบหืดมักจะกำเริบในบางฤดู เช่น กำเริบเมื่อเจอกับสภาพอากาศที่เย็นและแห้ง หรือ กำเริบเมื่อเจอกับสิ่งกระตุ้นบางชนิด เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ หรือ ควันบุหรี่ ซึ่งหากอาการกำเริบรุนแรง ผู้ป่วยจะไม่สามารถหายใจได้ ส่งผลให้ระบบหายใจล้มเหลว และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด

 

สาเหตุของโรคหอบหืด

  • สภาพอากาศที่เย็นและแห้ง ทำให้หลอดลมเกิดการหดตัว ส่งผลให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก
  • สารก่อภูมิแพ้ในชีวิตประจำวัน เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ขนสัตว์ และมลพิษในอากาศ
  • เชื้อไวรัส เชื้อรา และแบคทีเรียที่อยู่ในอากาศ ซึ่งผู้ป่วยอาจรับเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจ
  • การออกกำลังกายอย่างหักโหม
  • ภาวะกรดไหลย้อน
  • ความเครียด
  • การรับประทานยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน
  • การถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์

 

ผู้หญิงกำลังใช้ยาพ่นเพื่อบรรเทาอาการหอบหืด

แนวทางการรักษา

  • การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยโรคด้วยการซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้น จากนั้นจึงทำการตรวจอย่างละเอียด โดยการตรวจสมรรถภาพปอด เพื่อวินิจฉัยแยกโรคอื่น ๆ ออกไป ซึ่งการตรวจสมรรถภาพปอดนั้น เป็นวิธีที่สามารถระบุโรคหอบหืดได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้แพทย์สามารถนำข้อมูลที่ได้ ไปวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดในลำดับต่อไป

 

  • การรักษาด้วยยา

สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด แพทย์จะใช้วิธีรักษาด้วยยา ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ยาบรรเทาอาการฉับพลัน และ ยาควบคุมการอักเสบในระยะยาว

 

    • ยาบรรเทาอาการฉับพลัน คือ ยาที่สามารถออกฤทธิ์ได้เร็ว ทำให้กล้ามเนื้อหลอดลมขยายตัว ช่วยบรรเทาอาการไอและเหนื่อยหอบ แต่ไม่มีผลในการระงับอาการหลอดลมอักเสบ จึงควรใช้เมื่อมีอาการเท่านั้น
    • ยาควบคุมการอักเสบในระยะยาว คือ ยาชนิดสูดพ่น ที่มีส่วนประกอบของสเตอรอยด์ มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของหลอดลม จะได้ผลก็ต่อเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

*การรักษาด้วยยา ผู้ป่วยต้องเข้าพบแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการ จากนั้นจึงใช้ยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง

 

แนวทางการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยหอบหืด เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกำเริบรุนแรง

  • หมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ หากพบว่ามีอาการ ควรใช้ยาบรรเทาอาการตามที่แพทย์สั่งทันที
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดอาการหอบหืด เช่น ทำความสะอาดบ้านเพื่อกำจัดไรฝุ่น หรือ งดอยู่ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • หาวิธีรับมือกับความเครียด
  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ไม่หักโหมเกินไป
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • เฝ้าระวังอาการของโรคกรดไหลย้อน
  • เข้าพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

 

เมื่อมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที

  • หายใจลำบาก แม้จะใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเป็นประจำ
  • หายใจมีเสียงหวีดมากผิดปกติ
  • ไอเรื้อรังจนส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน

 

เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกหายใจลำบาก ติดขัด เหนื่อยหอบ หรือมีอาการไอมากผิดปกติ สามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา โรงพยาบาลแถววัดสายไหม

นัดหมายออนไลน์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-006-9999

SHARE
ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ