ท้องร่วงเฉียบพลัน อาจเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

28 เม.ย. 2568 | เขียนโดย

โรคท้องร่วง Diarrhea

คือภาวะที่มีการถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำบ่อยกว่าปกติ โดยทั่วไปนิยามว่าการถ่ายเหลวตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปในหนึ่งวันจัดว่าเป็นโรคท้องร่วง และแม้การถ่ายเพียง 1 ครั้งที่มีมูกหรือเลือดปนก็เข้าข่ายเช่นกัน​ อาการท้องร่วงมักเกิดขึ้นเฉียบพลันและเป็นอยู่ช่วงสั้น ๆ ไม่เกินสองสามวัน (เรียกว่า ท้องร่วงเฉียบพลัน)​แล้วหายได้เอง แต่กรณีที่อาการยืดเยื้อเกิน 2-4 สัปดาห์ (ท้องร่วงเรื้อรัง) อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่​ ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคท้องร่วงคือภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและแร่ธาตุผ่านการถ่ายเหลวและอาเจียนอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่ร่างกายอ่อนแอกว่า

 

อาการของโรคท้องร่วงมี อะไรบ้าง?

  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปวดท้อง ท้องเสีย
  • มีไข้ ปวดหัว
  • มีอาการสูญเสียน้ำ เช่น ไม่มีแรง อ่อนเพลีย กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อย สีเข้ม

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วง มีอะไรบ้าง?

  • การติดเชื้อแบคทีเรียจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดตามสุขอนามัย หรืออาหารที่ไม่ปรุงสุก
  • การติดเชื้อไวรัสและมีพยาธิในลำไส้
  • การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนทำการปรุงหรือรับประทานอาหาร
  • การใช้ภาชนะที่มีเชื้อโรคหรือสารปนเปื้อน
  • ลำไส้มีการอักเสบ

ควรทำอย่างไร ไม่ให้เสี่ยงท้องร่วง?

  • เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่
  • หากซื้ออาหารมาแล้วไม่ได้รับประทานในทันที ควรนำเข้าตู้เย็น และอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน
  • หลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมที่มีส่วนผสมของกะทิ เนื่องจากเสียได้ง่าย
  • ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง

 

คำแนะนำเมื่อมีอาการท้องร่วง

ไม่ควรทานยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้เชื้อโรคไม่ถูกขับออกมา แนะนำให้จิบน้ำเกลือแร่ ORS บ่อย ๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย งดอาหารรสจัด ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารหมักดอง
ปกติอาการจะดีขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่หากยังไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที และไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้

 

SHARE
ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ