ในช่วง 40 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะอาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ตลอดเวลา ซึ่งภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด เป็นหนึ่งในภาวะอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม มาหาคำตอบกันว่า อาการของภาวะนี้เกิดจากสิ่งใด รวมถึงเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณแม่กำลังเสี่ยงกับภาวะนี้อยู่ มาเช็กสัญญาณอันตรายได้ในบทความนี้
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Abruptio Placenta)
ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Abruptio Placenta) คือภาวะที่รกหลุดลอกก่อนถึงเวลาคลอด แม้จะพบได้เพียง 1% แต่ก็มีอันตรายต่อทั้งมารดาและทารก โดยสามารถเกิดได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 24 สัปดาห์ และพบมากที่สุดช่วงไตรมาสสุดท้าย และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องคลอดก่อนกำหนด ด้วยเหตุนี้ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดจึงจัดเป็นภาวะเร่งด่วนทางสูติศาสตร์ ที่ต้องได้รับการดูแลเพื่อความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
อันตรายจากภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
เพราะ “รก” มีหน้าที่เป็นตัวลำเลียงอาหารและออกซิเจนจากมารดาไปสู่ทารก แต่ถ้าหากเกิดการลอกตัวก่อนครบกำหนด ก็จะทำให้ทารกขาดออกซิเจนและอาหารได้ นอกจากนี้ ยังเป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่ เพราะจะทำให้เลือดออกมาก เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน ทั้งอาการช็อกเนื่องจากเสียเลือด รวมถึงปัญหาการแข็งตัวของเลือด ไตล้มเหลว และอาจส่งร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
สภาพครรภ์หรือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด คือ อุบัติเหตุขณะตั้งครรภ์ เช่น อุบัติเหตุจราจร หรืออุบัติเหตุการลื่นล้มที่รุนแรง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้
- ผู้ที่เคยมีภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดมาแล้วในการตั้งครรภ์ครั้งก่อน
- มีภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอทหรือสูงกว่า อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดได้
- มีอาการน้ำเดินก่อนกำหนด ถุงน้ำคร่ำแตก ซึ่งเป็นสภาพครรภ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
- คนที่เป็นภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติ เช่น โรคโลหิตจาง (ธาลัสซีเมีย) มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดเช่นกัน
- การตั้งครรภ์แฝดทำให้มดลูกยืดขยายมากขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดได้
- มารดาที่มีอายุมากกว่า 40 ปี มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด เนื่องจากเสี่ยงต่อสภาพรกเสื่อมก่อนกำหนด
ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดมีอาการอย่างไรบ้าง ?
สำหรับว่าที่คุณแม่ที่ต้องการความอุ่นใจ การรู้ถึงสัญญาณเตือนของภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยสามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้
- มีเลือดออกทางช่องคลอด เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด โดยมักจะเป็นเลือดสีแดงสดไหลออกมาเล็กน้อยหรือไหลออกเป็นก้อน
- มดลูกบีบตัวเป็นจังหวะ มีอาการท้องแข็ง และรู้สึกเกร็งตลอดเวลา
- มีภาวะน้ำเดินก่อนครบกำหนดคลอด ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด โดยน้ำคร่ำอาจไหลเป็นสาย
- ทารกในครรภ์ไม่ดิ้น หรือดิ้นน้อยกว่าปกติ หากรู้สึกว่าทารกมีอาการดิ้นผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- รู้สึกอ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว มีเหงื่อออก อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจากการเสียเลือด
การรักษาภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
สำหรับแนวทางการรักษาอาการรกลอกตัวก่อนกำหนดมีดังนี้
- แพทย์ประเมินอาการและปัจจัยเสี่ยง โดยจะเริ่มจากการซักถามประวัติตั้งครรภ์ เพื่อสำรวจความเสี่ยง ร่วมกับการประเมินอาการ
- แพทย์ทำการตรวจอาการของทารกในครรภ์ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การอัลตราซาวด์ การตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจเลือด เป็นต้น
- หากมีภาวะการลอกตัวของรกไม่รุนแรง แพทย์อาจให้นอนพักและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด แต่หากมีความรุนแรง อาจต้องทำคลอดก่อนกำหนด
วิธีป้องกันภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
- งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และใช้สารเสพติดทุกประเภท
- ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือการเกิดอุบัติเหตุที่อาจกระทบกระเทือนต่อทารกในครรภ์
- ดูแลสุขภาพตัวเองและทารกในครรภ์ให้แข็งแรง ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และไปพบแพทย์เพื่อตรวจครรภ์ตามนัดหมาย
- ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
อยากให้การตั้งครรภ์ราบรื่น อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกคลินิกฝากครรภ์ตั้งแต่วันแรก ที่โรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม เรามีแผนกสูตินรีเวชที่พร้อมให้การดูแลคุณและลูกน้อยด้วยความใส่ใจ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่องมือทันสมัย ได้มาตรฐาน ได้มาตรฐาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายเข้าพบแพทย์ได้ที่เบอร์ 034-271-999