วิธีตรวจช็อกโกแลตซีสต์ ภัยเงียบทำร้ายสุขภาพคุณผู้หญิง

19 ก.ค. 2567 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม

ทำความรู้จักกับ ‘โรคช็อกโกแลตซีสต์’ ภัยเงียบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคุณผู้หญิง พร้อมเช็ก 4 สัญญาณเตือน ว่าคุณควรได้รับการตรวจช็อกโกแลตซีสต์แล้วหรือยัง



สุขภาพภายในของผู้หญิงมีความละเอียดและซับซ้อนกว่าที่คิด อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายหากไม่ได้รับการดูแลสุขอนามัยอย่างถูกวิธี และ ‘ช็อกโกแลตซีสต์’ ก็เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพภายในของผู้หญิงที่เรามักได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องถึงอันตรายของโรค รวมถึงภาวะของการเกิดอาการที่ควรเฝ้าระวัง เรามีเกร็ดความรู้ข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการตรวจช็อกโกแลตซีสต์ และข้อควรรู้อื่น ๆ ของโรคนี้มาแนะนำกัน

ช็อกโกแลตซีสต์คืออะไร ?

ช็อกโกแลตซีสต์ หรือ Chocolate Cyst คืออีกชื่อหนึ่งของโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นเลือดประจำเดือนส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ไหลออกมาทางช่องคลอดอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับไหลย้อนผ่านปีกมดลูก แล้วฝังตัวอยู่บริเวณอุ้งเชิงกรานด้านข้างหรือด้านหลังมดลูก กลายเป็นก้อนเลือดประจำเดือนที่อยู่ผิดที่ และมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามรอบประจำเดือนจนกลายเป็นถุงน้ำหรือซีสต์ เมื่อเวลาผ่านไป เลือดประจำเดือนที่สะสมไว้จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ถุงน้ำก็จะค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น เลือดที่ค้างอยู่ในนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ายช็อกโกแลต กลายเป็นที่มาของชื่อช็อกโกแลตซีสต์ที่เรารู้จักกัน

โรคนี้มีโอกาสเกิดได้กับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ อายุ 20-40 ปี ผู้ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นช็อกโกแลตซีสต์มาก่อน และผู้ที่มีลูกคนแรกตอนอายุมากก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน

อันตรายจากช็อกโกแลตซีสต์

ช็อกโกแลตซีสต์ไม่ใช่โรคที่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เพราะโรคนี้สร้างความทรมานให้แก่ผู้หญิงจำนวนมาก ทำให้อาการปวดประจำเดือนรุนแรงผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ ชนิดเยื่อบุผิว และส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของรังไข่ ซึ่งเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ที่สำคัญของผู้หญิง

อาการบ่งบอก ควรได้รับการตรวจช็อกโกแลตซีสต์

คุณผู้หญิงคนไหนที่กังวลว่า ตัวเองกำลังเสี่ยงเป็นโรคช็อกโกแลตซีสต์ ในเบื้องต้น สามารถสังเกตอาการตามลิสต์นี้ก่อนได้เลย

  • ขณะมีประจำเดือน เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จนไม่สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรือปวดจนเป็นลม
  • ประจำเดือนมาเยอะหรือมาน้อยผิดปกติ รวมทั้งมาถี่เกินไป เช่น มาทุก ๆ 2 สัปดาห์
  • คลำพบก้อนบริเวณท้องน้อย โดยเฉพาะคนที่มีรูปร่างผอม จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษ
  • ปวดท้องน้อยหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือขณะเบ่งถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ
  • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ เนื่องจากก้อนซีสต์มีขนาดใหญ่ จึงไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ

 

การอัลตราซาวนด์เพื่อหาความผิดปกติของรังไข่และมดลูก

วิธีการตรวจช็อกโกแลตซีสต์

จากอาการเสี่ยงที่พูดถึงไปข้างต้น ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่มีอาการเหล่านี้จะต้องเป็นช็อกโกแลตซีสต์เสมอไป ดังนั้น เพื่อความแม่นยำในการวินิจฉัยและการรักษา แพทย์จึงมีวิธีการตรวจช็อกโกแลตซีสต์เพิ่มเติม ดังนี้

1. การตรวจภายใน

เป็นวิธีเบื้องต้นในการตรวจหาความผิดปกติภายในระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง นอกจากจะตรวจหาช็อกโกแลตซีสต์ได้แล้ว ยังสามารถตรวจพบโรคอื่น ๆ เช่น โรคมะเร็งปากมดลูก ก้อนเนื้อในมดลูก หรืออาการติดเชื้อต่าง ๆ ได้อีกด้วย

2. การอัลตราซาวนด์

การอัลตราซาวนด์ช็อกโกแลตซีสต์นั้น เป็นการใช้คลื่นความถี่สูงจากเครื่องอัลตราซาวนด์ตรวจบริเวณมดลูกและรังไข่ เพื่อตรวจดูว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งการอัลตราซาวนด์ซีสต์จะช่วยให้แพทย์สามารถระบุตำแหน่งและขนาดของซีสต์ได้ค่อนข้างชัดเจน

3. การส่องกล้องทางหน้าท้อง

เป็นวิธีที่ต้องวางยาสลบคนไข้ เพื่อเปิดแผลผ่าตัดเล็ก ๆ บริเวณระหว่างสะดือและหัวหน่าว จากนั้นจะส่องกล้องเข้าไปหาความผิดปกติ ซึ่งหากตรวจพบช็อกโกแลตซีสต์หรือความผิดปกติอื่น ๆ ก็สามารถทำการรักษาด้วยการผ่าตัดได้เลย

 

แนวทางการรักษาช็อกโกแลตซีสต์

สำหรับผู้ป่วยโรคช็อกโกแลตซีสต์ โดยทั่วไปมีวิธีการรักษา 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ การใช้ยา และการผ่าตัด ซึ่งจะเลือกใช้วิธีไหน ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยจะพิจารณาความรุนแรงของ อาการ ขนาด และตำแหน่งของซีสต์เป็นหลัก

1. การใช้ยา

ยาที่ใช้ในการรักษาช็อกโกแลตซีสต์มีอยู่หลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มยาบรรเทาปวด เพื่อลดอาการปวดประจำเดือนหรืออาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง และกลุ่มยาฮอร์โมนที่ส่งผลต่อประจำเดือน กดการทำงานของรังไข่ ทำให้ปริมาณประจำเดือนลดลง และทำให้ถุงน้ำฝ่อลงไปเอง

2. การผ่าตัด

กรณีที่ซีสต์มีขนาดใหญ่ การกินยาเพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้ผล และเสี่ยงเป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดเข้าช่วย โดยจะเป็นการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ซึ่งจะช่วยตัดถุงน้ำออกไปได้โดยไม่กระทบต่ออวัยวะข้างเคียง

หากสงสัยว่าตัวเองเป็นช็อกโกแลตซีสต์ หรือรู้สึกว่าสุขภาพภายในมีความผิดปกติ ต้องการตรวจอัลตราซาวนด์มดลูกและรังไข่ สามารถเข้ามารับคำปรึกษาและตรวจภายในกับสูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการได้ที่คลินิกตรวจภายใน โรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม ให้บริการด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย อุปกรณ์และห้องปฏิบัติการได้มาตรฐานระดับสากล

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายแพทย์ ติดต่อได้ที่ Call Center เบอร์ 034-271-999

 

SHARE
ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ