อาการปวดไม่ใช่เรื่องที่เราควรปล่อยผ่าน ! อาการปวดเรื้อรัง อาการชาตามร่างกายและความผิดปกติของระบบประสาทเป็นปัญหาที่ส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของผู้คน ในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีการบำบัดเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือการใช้เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะจุด (Pulsed Magnetic Stimulation: PMS) (embed link 🙂 และอีกวิธีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน คือ การฝังเข็ม ซึ่งเป็นศาสตร์การแพทย์แผนจีน ทั้งสองเทคนิคนี้มีหลักการทำงาน ข้อดีข้อเสียและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป และผู้รับการบำบัดอาจมีการตอบสนองต่อวิธีการรักษาที่ต่างกัน การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างเครื่อง PMS และการฝังเข็มนี้เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาเลือกวิธีการบำบัดอาการปวดที่ตอบโจทย์มากที่สุด

 

สาเหตุหลักของอาการปวดเรื้อรัง ชา และความผิดปกติของระบบประสาท

อาการปวดเรื้อรัง ชา และความผิดปกติของระบบประสาท มีสาเหตุที่หลากหลายและปัจจัยที่พบบ่อย ได้แก่ การบาดเจ็บของเส้นประสาทจากอุบัติเหตุ การผ่าตัดหรือโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดแสบร้อน ชาหรืออ่อนแรง นอกจากนี้ความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น ข้อเข่าเสื่อม หมอนรองกระดูกเสื่อม ก็เป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดเรื้อรังที่อาจส่งผลต่อระบบประสาทได้เช่นกัน

ภาวะการอักเสบเรื้อรังที่เกิดจากโรคต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือการอักเสบของเนื้อเยื่อและเส้นเอ็นก็เป็นสาเหตุของอาการปวดและส่งผลกระทบต่อระบบประสาทเช่นกัน นอกจากนี้การกดทับเส้นประสาทจากกล้ามเนื้อที่ตึงหรือโครงสร้างกระดูกที่เปลี่ยนแปลงไปก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดและชาตามแนวเส้นประสาทได้

เครื่อง PMS คืออะไร?

เครื่อง PMS คือ เทคโนโลยีการบำบัดด้วยการใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อของร่างกายในบริเวณที่ทำการรักษา โดยหลักการทำงานของเครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะจุด คือ การสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาที่เหมาะสม ส่งผ่านไปยังบริเวณที่ต้องการรักษา สนามแม่เหล็กนี้จะเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กในเนื้อเยื่อ ซึ่งสามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทและกล้ามเนื้อได้โดยตรง

 

กลไกการออกฤทธิ์ของ PMS ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ

โดยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นจากเครื่อง PMS จะทะลุผ่านผิวหนัง กระดูกและเนื้อเยื่ออื่นๆ ไปกระตุ้นเซลล์ประสาทและกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกลงไป เมื่อกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำไปถึงเซลล์ประสาทจะทำให้เกิดการกระตุ้นหรือยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทขึ้นอยู่กับความถี่และความเข้มของสนามแม่เหล็กที่ใช้ ในส่วนของกล้ามเนื้อ การกระตุ้นด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถช่วยในการลดอาการปวดเกร็งและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้

ข้อดีของการรักษาด้วยเครื่อง PMS

การรักษาด้วยเครื่อง PMS มีข้อดีหลายประการ เนื่องจากเป็นการรักษาแบบไม่รุกราน จึงไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดขณะทำการรักษาและไม่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ นอกจากนี้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถกระตุ้นเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกลงไปในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรักษาอาการที่อยู่ลึกได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือฉีดยา เครื่อง PMS ยังสามารถปรับตั้งค่าความถี่และความเข้มของสนามแม่เหล็กได้หลากหลายทำให้สามารถปรับการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพและอาการของผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ

อาการที่สามารถรักษาได้ด้วยเครื่อง PMS

เครื่อง PMS ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการและภาวะสุขภาพที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น อาการปวดเรื้อรังบริเวณต่างๆ ของร่างกาย อาการชา อาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ ภาวะเส้นประสาทถูกกดทับ อาการปวดจากเส้นประสาท อาการปวดหลังส่วนล่าง อาการปวดคอ อาการปวดศีรษะ และภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

การฝังเข็ม คืออะไร?

การฝังเข็ม เป็นศาสตร์การแพทย์แผนจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีหลักการพื้นฐานอยู่บนแนวคิดเรื่องการไหลเวียนของพลังงาน “ชี่” (Qi) ในร่างกาย ตามทฤษฎีการแพทย์แผนจีน ร่างกายมีเส้นลมปราณซึ่งเป็นช่องทางที่พลังงานชี่ไหลเวียนอยู่ หากการไหลเวียนของชี่ติดขัดหรือไม่สมดุลจะส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วย การฝังเข็มจึงเป็นการใช้เข็มขนาดเล็กและบางเป็นพิเศษ ปักลงบนร่างกายตามแนวเส้นลมปราณ เพื่อปรับสมดุลและกระตุ้นการไหลเวียนของชี่ทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูและรักษาตนเองได้

 

กลไกการออกฤทธิ์ของการฝังเข็มในการกระตุ้นจุดต่างๆ บนร่างกาย

แม้ว่าหลักการพื้นฐานของการฝังเข็มจะอิงตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน แต่การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พยายามอธิบายกลไกการออกฤทธิ์ของการฝังเข็มในเชิงกายภาพ พบว่า การปักเข็มลงบนจุดฝังเข็มจะกระตุ้นเส้นประสาทบริเวณนั้น ส่งผลให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทต่างๆ เช่น เอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารระงับปวดตามธรรมชาติของร่างกาย นอกจากนี้การฝังเข็มยังอาจมีผลต่อการไหลเวียนโลหิต การลดการอักเสบ และการคลายตัวของกล้ามเนื้อ

ข้อดีของการรักษาด้วยการฝังเข็ม

การรักษาด้วยการฝังเข็มมีข้อดีหลายประการ เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาแบบองค์รวมที่พิจารณาสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่อาการเฉพาะจุด การฝังเข็มมีผลข้างเคียงน้อยและสามารถใช้ร่วมกับการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันได้ นอกจากนี้การฝังเข็มยังสามารถปรับวิธีการรักษาให้เข้ากับสภาพและอาการของผู้ป่วยแต่ละรายได้ และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานยาหรือเข้ารับการผ่าตัด

อาการที่สามารถรักษาได้ด้วยการฝังเข็ม

การฝังเข็มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการรักษาอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดหลัง ปวดคอ ปวดศีรษะและข้อเข่าเสื่อม นอกจากนี้ยังมีการนำมาใช้ในการบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาการแพ้ อาการนอนไม่หลับและภาวะเครียด

 

การเลือกเทคนิคการบำบัดที่เหมาะสม: ควรพิจารณาจากอะไร?

การเลือกระหว่างเครื่อง PMS และการฝังเข็ม ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ประเภทของอาการ ความรุนแรงของอาการ สาเหตุของอาการ สภาพร่างกาย ความชอบส่วนบุคคลและความพร้อมในการเข้ารับการรักษา

โดยทั่วไปแล้วเครื่อง PMS อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเฉพาะจุด หรือต้องการการกระตุ้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาทในบริเวณที่เข้าถึงยากโดยไม่ต้องสัมผัสผิวหนัง ในขณะที่การฝังเข็มเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาแบบองค์รวม นอกจากนี้การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดจะช่วยให้ได้รับคำแนะนำในการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

 

ลดอาการปวด ชา และอาการทางประสาทต่างๆ ที่ไหนดี

สำหรับผู้ที่สนใจในการรักษาอาการปวด ชา และอาการทางประสาทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเครื่อง PMS หรือการฝังเข็ม โรงพยาบาลสินแพทย์พร้อมเป็นทางเลือกที่คุณวางใจได้ ด้วยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในเทคโนโลยีการกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะจุด (PMS) และศาสตร์แห่งการฝังเข็ม เราใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การวินิจฉัยและประเมินอาการของคุณอย่างละเอียด การวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุด เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ปลอดภัยและได้มาตรฐาน เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น