ถ้าหากคุณรู้สึกอยากทานของหวานตลอดเวลา เมื่อร่างกายได้เติมความหวานแล้วจะรู้สึกดี แม้กระทั่งตอนที่รู้สึกเหนื่อยล้าหรืออารมณ์ไม่ดี ก็มักจะอยากทานแต่ของหวาน และถ้าหากเราฝืน ไม่ได้ทาน อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน แต่อาการติดหวานเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันพอกตับ เป็นต้น และยังทำให้ร่างกายเกิดผลเสีย ทั้งน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เป็นสิวง่าย ฟันผุ
มาลองเช็กกัน! ว่าคุณติดหวานหรือไม่?
- อยากทานแต่ของหวานตลอดเวลา ทั้งขนมหวาน หรือผลไม้รสหวาน
- เมื่อไม่ได้ทานของหวาน จะรู้สึกหงุดหงิด ไม่มีพลัง
- หิวบ่อย มักนึกถึงของกินตลอดเวลา
- ทานของหวาน ปิดท้ายมื้ออาหารเสมอ
- เติมน้ำตาลเพิ่มในอาหารทุกมื้อ
- ดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน มากกว่า 1 แก้วต่อวัน
แต่การเลิกทานหวานแบบหักดิบทันทีเป็นเรื่องยากและอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดความผิดปกติได้ ดังนั้นสำหรับคนที่ชอบทานของหวาน ควรค่อย ๆ ลดปริมาณการทานหวานลงวันละนิดละหน่อย จนกว่าร่างกายจะปรับตัวได้ เพื่อสุขภาพที่ดี
วิธีการปรับพฤติกรรม ลดอาการติดหวาน
- สังเกตปริมาณน้ำตาล และวัตถุดิบบนฉลากผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง
- ลดการปรุงน้ำตาลเพิ่มในอาหาร
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม และดื่มน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มที่ไม่ผสมน้ำตาลแทน
- เลือกรับประทานผลไม้หวานน้อย เช่น แอปเปิ้ลเขียว ฝรั่ง แก้วมังกร
- เพิ่มปริมาณผักใบเขียวในอาหาร เพราะมีส่วนช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
- รับประทานอาหารตรงเวลา และถูกหลักโภชนาการ
ลองลดความหวานที่ทานในแต่ละวันให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากความหวาน และไม่บริโภคมากเกินไปจนส่งผลเสียต่อร่างกาย
ด้วยความห่วงใย จาก…โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี