ในช่วงนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกินระดับมาตรฐาน อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา ซึ่ง PM 2.5 เป็นฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นศูนย์กลางของเส้นผม ด้วยขนาดที่เล็กมาก ๆ ทำให้ขนจมูกของเราไม่สามารถกรองได้ และเมื่อหายใจเข้าไป สามารถเล็ดลอดไปถึงถุงลมปอด และระบบไหลเวียนเลือด กระจายไปทั่วร่างกายได้
PM 2.5 ส่งผลให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง
- โรคระบบทางเดินหายใจ – ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สามารถเข้าไปถึงถุงลมปอด ทำให้ปอดเกิดการอักเสบ ระคายเคือง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด – เมื่อสูดฝุ่นเข้าไปจำนวนมาก ทำให้เลือดข้น และหัวใจทำงานหนักขึ้น
- โรคผิวหนัง – ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ และส่งผลต่อเซลล์ผิวในระดับยีน ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ และเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
- โรคเยื่อบุตาอักเสบ – เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย จนเกิดอาการอักเสบ ตาแดง แสบตา และ คันตา
วิธีดูแลตนเองจาก PM 2.5
- ติดตามรายงานสภาพอากาศ และระดับ PM 2.5
- รับประทานผักและผลไม้ สารต้านอนุมูลอิสระในผักและผลไม้จะช่วยลดผลกระทบของฝุ่น
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่ที่มีความเสี่ยง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ คนชรา และ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจ โรคปอด และ โรคหัวใจชนิดต่าง ๆ
- สวมหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพ เช่น N95 หรือ หน้ากากอนามัยซ้อนกัน 2 ชั้นและสวมปิดให้แนบสนิทกับใบหน้าทุกส่วน
PM 2.5 เป็นฝุ่นขนาดจิ๋ว แต่ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมหาศาล ดังนั้นหากพบว่ามีความผิดปกติ เช่น ไอบ่อย แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ใจสั่น คลื่นไส้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที