มีอาการเหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว อย่านิ่งนอนใจ ปล่อยไว้อาจเสี่ยงโรคร้ายหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคปอด และโรคเกี่ยวกับสมองและประสาทเลี้ยงกล้ามเนื้อ
เป็นธรรมดาที่เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นอวัยวะต่าง ๆ ย่อมเสื่อมลง ร่างกายก็เหนื่อยล้าและอ่อนเพลียได้ง่ายกว่าเดิม กิจกรรมบางอย่างที่เคยทำได้แบบสบาย ๆ ก็กลายเป็นทำแล้วเหนื่อยเร็วผิดปกติ เช่น การเดิน การวิ่ง การขึ้นบันได หรือการออกกำลังกาย แต่บางครั้ง อาการเหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว อาจเป็นสัญญาณว่าชีวิตคุณกำลังตกอยู่ในภาวะอันตรายก็เป็นได้
มีอาการเหล่านี้ร่วมกับเหนื่อยง่าย ควรไปพบแพทย์โดยด่วน
พูดถึงอาการเหนื่อยง่าย เชื่อว่าคนมีอายุส่วนใหญ่ต้องเคยเจอ ซึ่งอย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่า สุขภาพและร่างกายย่อมโรยราลงไปตามกาลเวลา แต่หากเกิดอาการเหนื่อยเร็วผิดปกติ อาจจะเป็นสัญญาณของโรคร้าย เพราะฉะนั้นจึงควรจับตาดูอาการเหล่านี้เป็นพิเศษ
1. หายใจผิดปกติ
อาการหายใจผิดปกติในที่นี้ ได้แก่ หายใจเร็ว หอบ มีเสียงดังเวลาหายใจ และรู้สึกหายใจไม่อิ่มหรือไม่เต็มปอด ซึ่งผู้ป่วยบางคนมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นไม่สามารถพูดหรือสื่อสารได้ รวมทั้งหมดสติเลยทีเดียว
2. หัวใจเต้นเร็ว
ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ เต้นเร็วผิดปกติ ก็เป็นสัญญาณความผิดปกติร้ายแรงได้เช่นกัน โดยทั่วไป หัวใจมนุษย์จะมีอัตราการเต้นอยู่ที่ 60-100 ครั้ง/นาที แต่หากกำลังเดินอยู่ ระดับการเต้นของหัวใจจะอยู่ที่ 100-120 ครั้ง/นาที และจะขึ้นไปถึง 120 ครั้ง/นาที หากว่าเราออกวิ่ง
แต่ในกรณีที่ เรานั่งอยู่เฉย ๆ แล้วหัวใจเกิดเต้นเร็วเกิน 100 ไปจนถึง 150 ครั้ง/นาที หรือมีความรู้สึกว่าหัวใจเต้น ๆ หยุด ๆ จะถือว่ามีภาวะหัวใจเต้นเร็วหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ ที่อาจทำให้เกิดอันตรายได้
3. เจ็บหน้าอก
ปัญหาที่เกิดกับอวัยวะภายในทรวงอก ล้วนก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกทั้งสิ้น ซึ่งในกรณีของคนที่เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ จะมีอาการจุกแน่นบริเวณหน้าอก ลักษณะเหมือนหน้าอกถูกกดทับ รวมทั้งมีอาการเจ็บร้าวไปถึงแขนด้วย โดยอาการเสี่ยงที่มักพบบ่อย ๆ คือรู้สึกเจ็บหน้าอกขณะออกแรงทำงาน
4. ขาบวม
อาการขาบวมถือเป็นอาการที่คนส่วนใหญ่มองข้ามก็ว่าได้ เพราะคิดว่าเป็นความผิดปกติที่ขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจเกิดภาวะน้ำท่วมปวด โรคตับ หรือโรคไต จึงเกิดอาการขาบวมได้
5. หน้ามืด หมดสติ
สุดท้าย ถือเป็นอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายอาจเข้าขั้นวิกฤต คือหน้ามืด เป็นลม วูบ และหมดสติ เพราะเป็นสัญญาณว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย อย่าลืมหมั่นสังเกตตัวเองและคนใกล้ชิด หากมีความผิดปกติข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์และทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อวินิจฉัยต้นเหตุของอาการและวางแผนการรักษาอย่างถูกวิธีตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนโรคร้ายจะมาเยือน
เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว เสี่ยงโรคอะไรบ้าง ?
หากมีอาการเหนื่อยเร็วผิดปกติ ร่วมกับหัวใจเต้นเร็ว ในเบื้องต้น ร่างกายกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจาก 3 โรคด้วยกัน ได้แก่
1. โรคหัวใจ
หากเหนื่อยง่ายและหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ โรคน่าสงสัยอันดับแรกคงหนีไม่พ้นโรคหัวใจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจโดยตรง และสามารถแบ่งแยกย่อยตามความผิดปกติลงไปอีกหลายชนิด ได้แก่
- โรคหลอดเลือดหัวใจ
- โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
- โรคลิ้นหัวใจ
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
- โรคติดเชื้อบริเวณหัวใจ
2. โรคปอด
อีกหนึ่งโรคที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยง่าย คือโรคปอด ไม่ว่าจะเป็นโรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคถุงลมโป่งพอง และโรคมะเร็งปอด สามารถตรวจพบได้ด้วยการเอกซเรย์และการตรวจสมรรถภาพปอด
3. โรคเกี่ยวกับสมอง
สุดท้าย เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับสมอง ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคกล้ามเนื้อฝ่อ โรคหลอดเลือดสมองตีบ เป็นความผิดปกติบริเวณสมองแต่ส่งผลถึงระบบหายใจ ควรตรวจอย่างละเอียดและรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองเท่านั้น
วิธีตรวจหัวใจเบื้องต้นที่ควรรู้
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยง่ายและหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ นอกจากแพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้นแล้ว เพื่อความแม่นยำในการวินิจฉัย แพทย์อาจมีการตรวจหัวใจเพิ่มเติม โดยเบื้องต้น นิยมใช้ 3 วิธีด้วยกัน
1. การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test)
ใช้ตรวจหาความผิดปกติของหัวใจขณะออกกำลังกาย เพื่อดูว่ามีภาวะหัวใจขาดเลือดหรือไม่ โดยติดแผ่นขั้วไฟฟ้าลงบนหน้าอกผู้ป่วย แล้วให้ผู้ป่วยเดินบนสายพานออกกำลังและปรับความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเช็กอัตราการเต้นของหัวใจ และหยุดสายพานเมื่อผู้ป่วยไม่สามารถเดินต่อไหว
2. การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram)
เป็นการตรวจโดยใช้เครื่องอัลตราซาวนด์ความถี่ 3-12 MHz ส่งคลื่นเสียงไปยังหัวใจ แล้วประมวลผลกลับมาเป็นภาพ แสดงลักษณะทางกายภาพและการทำงานของหัวใจแบบเรียลไทม์ มองเห็นระบบไหลเวียนเลือด การทำงานของลิ้นหัวใจ และขนาดของหัวใจได้ชัดเจน ใช้วินิจฉัยโรคหัวใจหลายโรค เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด
3. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
การตรวจ EKG หรือ Electrocardiography มักใช้คัดกรองโรคหัวใจเบื้องต้น เพราะเป็นการตรวจคลื่นไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อหัวใจขณะหัวใจบีบตัว แล้วแสดงอัตราและจังหวะการเต้นของหัวใจในรูปแบบกราฟ โดยผู้ป่วยต้องติดอุปกรณ์บนหน้าอก 6 จุด และแขนขาอีก 4 จุด ถือเป็นวิธีที่ง่าย ไม่เจ็บ และใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น
หากรู้สึกร่างกายมีความผิดปกติ เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว ไม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เหมือนเคย อย่านิ่งนอนใจจนชีวิตตกอยู่ในอันตราย ควรมาเข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดจากแพทย์ผู้ชำนาญการที่ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม ศูนย์บริการด้านสุขภาพหัวใจที่ครบครันและทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่เบอร์ 034-271-999
เราพร้อมให้การรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางตลอด 24 ชั่วโมง