
เฝ้าระวัง โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคที่พบได้บ่อยในเด็ก
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่พัฒนาเต็มที่ ทำให้ร่างกายอ่อนแอต่อการติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรียได้ง่าย เด็กเล็กที่อยู่ในโรงเรียน หรือศูนย์ดูแลเด็กมักจะติดเชื้อกันได้รวดเร็วจากการสัมผัสของเล่น สิ่งของ หรือการไอจามโดยไม่มีการป้องกันที่ดีพอ
นอกจากนี้ อากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงมลภาวะทางอากาศก็เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เด็กป่วยได้ง่ายขึ้น ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรมีความรู้เกี่ยวกับโรคเหล่านี้เพื่อให้สามารถรับมือและป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์จะพามาทำความรู้จักกับโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบบ่อยในเด็ก วิธีสังเกตอาการ และแนวทางดูแลที่ช่วยให้ลูกน้อยแข็งแรงปลอดโรค
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่พบได้บ่อยในเด็ก มีอะไรบ้าง
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็กสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ได้รับผลกระทบ เช่น หลอดลม ปอด ไซนัส และลำคอ ซึ่งมักเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรียที่แพร่กระจายในอากาศหรือจากการสัมผัสของเล่นและพื้นผิวที่มีเชื้อโรคสะสม โดยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบได้บ่อยในเด็ก มีดังต่อไปนี้
โรคหลอดลมอักเสบ
โรคหลอดลมอักเสบเป็นการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม ซึ่งทำให้เด็กมีอาการไออย่างต่อเนื่อง อาจมีเสมหะมากขึ้น และรู้สึกแน่นหน้าอก โดยสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท
แบบเฉียบพลัน
- มักเกิดจากไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือ RSV
- อาการเริ่มต้นด้วยไข้ ปวดเมื่อยตัว ไอ และน้ำมูกไหล อาจมีเสมหะเหนียว
- หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี อาจพัฒนาไปสู่ปอดอักเสบได้
- ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 7-10 วัน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน
แบบเรื้อรัง
- อาการไอเรื้อรังที่ยาวนานกว่า 3 สัปดาห์
- เกิดจากปัจจัยเรื้อรัง เช่น การสัมผัสมลพิษ ควันบุหรี่ หรือโรคภูมิแพ้
- อาจทำให้เด็กมีอาการหอบเหนื่อย และหายใจลำบากหากอาการรุนแรงขึ้น
โรคไซนัสอักเสบ
โรคไซนัสอักเสบในเด็กเกิดจากการติดเชื้อในโพรงไซนัส ส่งผลให้เยื่อบุจมูกบวม ทำให้เกิดอาการคัดจมูก ปวดบริเวณโหนกแก้มและหน้าผาก อาการจะรุนแรงขึ้นในช่วงอากาศเย็นหรือมีฝุ่นละอองเยอะ น้ำมูกที่ออกมาอาจมีสีเขียวหรือเหลือง นอกจากนี้ เด็กอาจมีไอเรื้อรัง โดยเฉพาะเวลากลางคืน อาการที่เรื้อรังอาจส่งผลต่อการนอนหลับและสมาธิของเด็กได้
โรคภูมิแพ้อากาศ
เด็กที่มีอาการแพ้ฝุ่นละออง ละอองเกสร หรือขนสัตว์ อาจมีอาการจาม คัดจมูก คันตา น้ำตาไหล และไอเรื้อรัง สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารก่อภูมิแพ้สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการได้ง่ายขึ้น หากไม่ได้รับการดูแล อาจนำไปสู่ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังหรือหืดได้
ภาวะหลอดลมไว
ภาวะหลอดลมไวทำให้หลอดลมตีบลงเมื่อเจอกับสิ่งกระตุ้น เช่น อากาศเย็น ฝุ่น หรือสารก่อภูมิแพ้ อาการที่พบได้คือ หายใจมีเสียงหวีด ไอเป็นระยะ และรู้สึกแน่นหน้าอก หากอาการรุนแรง อาจต้องใช้ยาขยายหลอดลมเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
ปอดอักเสบ
ปอดอักเสบในเด็กเป็นภาวะที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะหากรุนแรงอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลว อาการหลัก ๆ ได้แก่ ไข้สูง ไอมีเสมหะ หายใจลำบาก และอ่อนเพลีย ในเด็กเล็กอาจพบอาการหายใจเร็ว หรือเสียงหายใจครืดคราด หากไม่ได้รับการรักษา อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
คออักเสบ
คออักเสบเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ทำให้เด็กมีอาการเจ็บคอ กลืนลำบาก และมีไข้สูง ในกรณีที่เกิดจากแบคทีเรีย ควรได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
สังเกตอาการอย่างไร ว่าลูกน้อยมีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ
- ไอเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
- หายใจลำบาก มีเสียงหวีด
- น้ำมูกหรือเสมหะข้นเหนียวผิดปกติ
- มีไข้สูง หรือไข้เป็น ๆ หาย ๆ
ทำไมเด็กจึงป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจบ่อยๆ
- ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง ทำให้ติดเชื้อง่าย
- ใกล้ชิดกับเด็กคนอื่น ๆ เพิ่มโอกาสแพร่กระจายของเชื้อโรค
- สภาพแวดล้อม ฝุ่นละอองและมลพิษในอากาศส่งผลให้เกิดโรคทางเดินหายใจง่ายขึ้น
- พฤติกรรมของเด็ก เช่น การขยี้ตาหรือเอามือเข้าปาก ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
สรุป
สรุปได้ว่า โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ในเด็กเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องให้ความสำคัญ การดูแลสุขภาพและป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อย่างการฉีดวัคซีน หมั่นล้างมือ และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นควันเยอะเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบอาการผิดปกติ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม
โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวช พร้อมให้การดูแลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็ก ด้วยเทคโนโลยีและแนวทางการรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด นัดหมายเข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ ใกล้บ้านคุณ