มาทำความรู้จักกับ 3 เทคโนโลยี ฟื้นฟูการเดินของผู้ป่วยโรคทางสมอง

สำหรับผู้ป่วยด้วยโรคทางสมอง จะมีปรารถนาไหนที่ต้องการไปกว่าการฟื้นฟูคุณภาพชีวิต และกลับมาเดินได้อีกครั้ง เมื่อก่อนอาจจะเป็นเพียงแค่การรอคอยที่ผ่านไปวันแล้ว วันเล่า เหมือนจะมีหวัง แต่ก็เต็มไปด้วยความริบหรี่ ซึ่งไม่ใช่แล้วกับตอนนี้ เพราะในวันที่โลกเริ่มมีเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เราก็จะได้เห็นว่าการรักษาถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด การเปลี่ยนข้อเข่าเทียม และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความหวังของผู้ป่วยโรคทางสมองโดยเฉพาะ คือ เทคโนโลยีที่ช่วยฟื้นฟูการเดิน ในครั้งนี้สินแพทย์​ รามอินทรา จึงอยากจะพาไปดูว่าโรคทางสมองและระบบประสาท เกิดจากอะไร โรคไหนบ้างที่สามารถฟื้นฟูการเดินได้ พร้อมแนะนำ 3 เทคโนโลยี ที่ช่วยทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาชีวิตที่เทียบเคียงคำว่าปกติได้ดีที่สุด

โรคทางสมองและระบบประสาท เกิดจากอะไร

โรคทางสมองและระบบประสาท เกิดจากอะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร ก่อนจะไปหาสาเหตุ อยากให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสมองกันก่อน สมองเป็นอวัยวะที่มีความซับซ้อนอยู่มาก เพราะหน้าที่หลัก คือ ควบคุมการทำงานของทุกส่วนที่อยู่ภายในร่างกาย ในที่นี้รวมไปถึงการเคลื่อนไหว ความคิดอ่าน ประสิทธิภาพการรับรู้ การจำ และพฤติกรรมที่จะแสดงออกต่อสิ่งรอบตัว ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับสมอง แน่นอนเลยว่าผลกระทบที่ตามมาจะนำไปสู่ความพิการ และอันตรายถึงชีวิตได้ โดยโรคทางสมอง สามารถเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่

 

• คนที่มียีนผิดปกติ : เกิดความเสี่ยงโรคทางสมองได้มากกว่าคนทั่วไป หากมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องเพียงเล็กน้อย ก็จะเป็นตัวกระตุ้นทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติตามมาได้
•  คนที่ไม่มียีนผิดปกติ : คนกลุ่มนี้จะมีความโชคดีตรงที่สามารถป้องกันตัวเองจากการเกิดโรคทางสมองได้ เพียงแค่หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงงดการดื่มแอลกอฮอล์ และข้อสำคัญไม่ควรสูบบุหรี่

โรคทางสมอง ที่ต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพการเดินมีอะไรบ้าง

โรคทางสมอง ที่ต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพการเดินมีหลัก ๆ ทั้งหมด 6 โรคด้วยกัน  ได้แก่

 

โรคเส้นเลือดในสมองตีบ (Stroke)

โรคเส้นเลือดในสมองตีบ (Stroke) จะมีอาการแขน ขา ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งเกิดอาการชาและเคลื่อนไหวลำบาก โดยจะเป็นขึ้นมาทันที มีสาเหตุมาจากเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองตีบ ตัน และแตก ส่งผลให้เนื้อสมองขาดออกซิเจน โรคนี้ถ้าหากรักษาได้ทันภายใน 3-4 ชั่วโมง ก็จะยิ่งมีโอกาสฟื้นตัวได้มากขึ้น และอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีการเดินเลยก็ได้

 

ภาวะบาดเจ็บที่ศีรษะ (Traumatic Brain Injury)

ภาวะบาดเจ็บที่ศีรษะ (Traumatic Brain Injury) เกิดจากศีรษะหรือร่างกายถูกกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้เซลล์สมองจะได้รับผลกระทบไปด้วย ในรายที่ไม่รุนแรง เซลล์สมองจะโดนกระทบเพียงชั่วคราว ขณะเดียวกัน คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอาจจะทำให้สมองเสียหายมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตได้ในที่สุด

 

โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)

โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) เกิดจากเซลล์สมองที่ตายไปแล้ว และเป็นส่วนที่ผลิตสารเคมีอย่าง “โดพามีน” ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ เมื่อสารเคมีตัวนี้ผลิตลดลง ก็จะทำให้การขยับร่างกายยากมากยิ่งขึ้น สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ คือ ร่างกายจะเกิดอาการสั่น และเดินลำบาก

 

โรคหลอดเลือดสมองน้อย (Cerebellar stroke)

โรคหลอดเลือดสมอง น้อย (Cerebellar stroke) เกิดจากสมองที่ขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือแตก ทำให้เนื้อเยื่อโดนทำลาย และลุกลามไปจนถึงการทำงานของสมองหยุดชะงักลง โดยเบื้องต้นจะพบว่ารู้สึกเวียนศีรษะ บ้านหมุน ทรงตัวไม่ได้ หยิบจับลำบาก ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด รวมถึงปัญหาสายตา จะเห็นเป็นภาพซ้อน

 

โรคมัลติเพิลสเคลโรซิส (Multiple Sclerosis)

โรคมัลติเพิลสเคลโรซิส (Multiple Sclerosis) เกิดจากการอักเสบของปลอกประสาทส่วนกลาง ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับตา ไขสันหลัง และสมองโดยตรง ยังไม่มีสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่เกิดจากได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม ระดับวิตามิน D ในร่างกายต่ำ การติดเชื้อบางชนิด รวมถึงภูมิคุ้มกันที่มีความผิดปกติ ผู้ป่วยจะรู้สึกแขน ขาอ่อนแรง มีการอาการเกร็ง กระตุก ทรงตัวลำบาก ไม่สามารถปัสสาวะออก รู้สึกแน่นอก เหมือนมีเข็มแทง และตามัวแบบเฉียบพลัน

 

เนื้องอกในสมอง (Brain tumor)

เนื้องอกในสมอง (Brain tumor) เกิดจากการรวมตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ มีทั้งชนิดที่เป็นมะเร็งและไม่ใช่มะเร็ง เป็นชนิดที่เกิดขึ้นที่สมองโดยตรง อาจจะเกิดขึ้นในส่วนอื่น ๆ ก่อนจะกระจายไปยังบริเวณสมอง ซึ่งความรุนแรงของโรคจะขึ้นอยู่กับตำแหน่ง และความรวดเร็วในการเติบโต 

ทั้ง 6 โรคนี้ คือ โรคทางสมองที่ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูการเดินให้กลับมาสามารถเทียบเคียงกับชีวิตประจำวันได้

 

แนะนำ 3 เทคโนโลยี ที่ช่วยในการฟื้นฟูการเดิน

ในส่วนนี้เราจะพาไปดู 3 เทคโนโลยี ที่ช่วยในการฟื้นฟูการเดิน ซึ่งแต่ละตัวจะมีเทคโนโลยีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันได้เลย

 

เทคโนโลยีหุ่นยนต์ฝึกเดิน ด้วย End Effector system

เทคโนโลยีหุ่นยนต์ฝึกเดิน ด้วย End Effector system พัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเท้า ข้อเท้า เข่า ขา และสะโพก ให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อปรับลักษณะการเดินให้ถูกต้อง เหมาะสำหรับผู้ป่วยหลังภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ที่ทรงตัวไม่ดี กำลังขามีไม่พอ ให้กลับมาเดินได้ปกติมากขึ้น

 

เทคโนโลยีกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์สมองด้วย คลื่นแม่เหล็ก TMS

เทคโนโลยีกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์สมองด้วย คลื่นแม่เหล็ก TMS ชื่อนี้ค่อนข้างตรงตัว เพราะมีคุณสมบัติในการกระตุ้น ฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพฤกษ์และอัมพาต รวมถึงรักษาอาการปวดเรื้อรังจากเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ โดยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีความใกล้เคียงกับการทำ MRI ที่สามารถทะลุผ่านกล้ามเนื้อเข้าไปได้ 1-3 เซนติเมตร เพื่อเปลี่ยนระบบการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยไม่ต้องกลัวจะกระทบกระเทือนต่ออวัยวะอื่น ๆ โดยรอบ

 

เครื่องฝึกเดินและทรงตัว Hoist System

เครื่องฝึกเดินและทรงตัว Hoist System ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีปัญหาในเรื่องของการเคลื่อนไหว และการทรงตัว เน้นรักษาในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยที่ต้องฟื้นตัวหลังผ่าตัด และผู้ที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง อุปกรณ์จะช่วยพยุงน้ำหนักตัวของผู้ป่วย ทำให้เกิดสะดวกเมื่อจะฝึกเดิน และลดความเสี่ยงที่จะหกล้มระหว่างฟื้นฟูร่างกาย

 

สรุป

โรคเกี่ยวกับสมอง เกิดกับเราได้ง่ายมากกว่าที่คิด ดังนั้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และใช้ชีวิตด้วยความไม่เครียด จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมากที่สุดในการดำเนินชีวิตประจำวัน  หรือถ้าอยากตรวจเช็กสุขภาพ อยากตรวจหาความผิดปกติของสมอง สามารถมาเช็กได้ที่ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ที่นี่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และช่วยวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและตรงจุด