
ส่องกล้องผ่าตัดกระเพาะ วิธีรักษาโรคอ้วนที่เห็นผลได้อย่างยั่งยืน
เนื่องด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีคนจำนวนมากต้องเผชิญกับภาวะน้ำหนักเกินหรือเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน สาเหตุอาจเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินกว่าร่างกายต้องการ การรับปรทานอาหารประเภทไขมันสูง รวมทั้งบริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก ซึ่งสวนทางกับการออกกำลังกายเพื่อเผาพลาญไขมัน ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะอ้วน และเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา
โดยผู้ที่ประสบปัญหาน้ำหนักเกินบางท่าน อาจทำการลดน้ำหนักด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วแต่ก็ยังไม่ได้ผล วันนี้สินแพทย์ ศรีนครินทร์ จะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธีสยบภาวะอ้วนด้วยการส่องกล้องผ่าตัดกระเพาะ เพื่อการลดน้ำหนักที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
ภาวะโรคอ้วน มีอันตรายอย่างไร
ภาวะโรคอ้วน มีอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก และเป็นนำไปสู่การเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคทางหลอดเลือดสมอง โรคกรดไหลย้อน กระดูกสันหลังหรือกระดูกเข่าเสื่อม หรือแม้กระทั่งกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิต เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ ภาวะมีบุตรยาก รวมถึงภาวะนอนหลับยาก เป็นต้น
ทำไมออกกำลังกายแล้ว แต่น้ำหนักไม่ลดตาม
ทำไมออกกำลังกายแล้ว แต่น้ำหนักไม่ลดตาม เนื่องจากในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการควบคุมน้ำหนัก ทั้งการลดปริมาณมื้ออาหารหรือแม้กระทั่งการออกกำลังกาย ร่างกายจะเผาพลาญหรือดึงน้ำ ไขมัน และกล้ามเนื้อบางส่วนออกมา น้ำหนักจึงลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงแรก ประกอบกับเมื่อมวลกล้ามเนื้อลดน้อยลง ย่อมส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการเผาพลาญของร่างกาย นำไปสู่สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเกิดความคงที่
ค่า BMI เท่าไหร่ถึงเข้าข่ายความอ้วน
ค่า BMI เท่าไหร่ถึงเข้าข่ายความอ้วน โดยปกติแล้วทางการแพทย์จะใช้ BMI หรือค่าดัชนีมวลกายเป็นตัวชี้วัด และคัดกรองมาตรฐานความสมดุลของน้ำหนักตัวต่อส่วนสูง โดยคำนวนได้จากการนำน้ำหนัก (หน่วย : กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (หน่วย : เมตร) ยกกำลังสอง ซึ่งสามารถแบ่งเกณฑ์ได้ดังนี้
BMI น้อยกว่า 18
ค่า BMI น้อยกว่า 18 คือ น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์หรือผอมมากเกินไป เสี่ยงต่อการที่ร่างกายขาดสารอาหาร และได้รับพลังงานไม่เพียงพอ อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีนเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย
BMI 18 ถึง 22.9
ค่า BMI 18.5 ถึง 22.9 คือ น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอ้วนและโรคต่าง ๆ น้อยที่สุด
BMI 23.0 ถึง 24.9
ค่า BMI 23.0 ถึง 24.9 แสดงถึง ภาวะน้ำหนักเกิน เป็นเกณฑ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มอ้วนเล็กน้อย สำหรับผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิต อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้มากกว่าบุคคลทั่วไป
BMI 25.0 ถึง 29.9
ค่า BMI 25.0 ถึง 29.9 แสดงถึง ภาวะอ้วนระดับที่ 1 เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพร่างกาย ควรปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
BMI มากกว่า 30.0
ค่า BMI มากกว่า 30.0 แสดงถึง ภาวะอ้วนระดับที่ 2 หรือระยะรุนแรง เป็นอันตรายอย่างมากต่อร่างกาย และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน ควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพ และหาแนวทางในการรักษา
แนะนำการผ่าตัดกระเพาะแบบส่องกล้อง มีกี่วิธี
การผ่าตัดกระเพาะแบบส่องกล้อง มีจุดประสงค์ในการลดขนาดกระเพาะ เพื่อให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดรับประทานอาหารได้น้อยลง รู้สึกอิ่มเร็วมากยิ่งขึ้น โดยมีวิธีการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังต่อไปนี้
การผ่าตัดแบบสลีฟ (Sleeve gastrectomy)
การผ่าตัดแบบสลีฟ (Sleeve gastrectomy) คือ การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารให้เล็กลง แพทย์จะทำการส่องกล้องเพื่อทำการตัดกระเพาะออกประมาณ 75-80% โดยเหลือเฉพาะในส่วนที่จำเป็นต่อความต้องการของร่างกาย เมื่อกระเพาะอาหารมีขนาดเล็กลง ทำให้ร่างกายลดการผลิตออร์โมนที่กระตุ้นความอยากอาหาร ส่งผลให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่วิธีนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด
การผ่าตัดแบบบายพาส (Roux-en-Y gastric bypass)
การผ่าตัดแบบบายพาส (Roux-en-Y gastric bypass) คือ การลดขนาดร่วมกับลดการดูดซึมของกระเพาะอาหาร แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อลดกระเพาะอาหารส่วนต้นให้เหลือประมาณ 1-2 ออนซ์ พร้อมปรับเปลี่ยนทางเดินอาหารเชื่อมเข้าสู่ลำไส้เล็กโดยตรง เพื่อให้กระเพาะสามารถรับอาหารได้น้อยลง และลดโอกาสที่ร่างกายจะดูดซึมอาหารมากจนเกินไป
ประโยชน์ของการส่องกล้องผ่าตัดกระเพาะอาหาร
ประโยชน์ของการส่องกล้องผ่าตัดกระเพาะอาหาร นอกเหนือจากการลดขนาดและลดการดูดซึมของกระเพาะอาหาร นำไปสู่การรับประทานอาหารได้น้อยลง การผ่าตัดประเภทนี้ยังเป็นหนึ่งในการรักษาให้หายจากภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งลดความเสี่ยงของการเกิดโรคแทรกซ้อน และผลกระทบที่มีต่อสุขภาพร่างกายได้เช่นเดียวกัน
การเลือกใช้วิธีนี้ เหมาะกับใครบ้าง
การเลือกวิธีรักษาให้หายจากภาวะอ้วนด้วยการผ่าตัดกระเพาะอาหาร เหมาะสำหรับผู้ต้องเผชิญกับภาวะอ้วนระยะรุนแรง ที่ส่งผลให้มีปัญหาด้านสุขภาพแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะนอนหลับยาก เป็นต้น โดยการรักษาด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนัก และลดความผิดปกติของโรคแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเห็นผลได้ผลในระยะยาว
ผ่าตัดกระเพาะหยุดโรคอ้วน ที่สินแพทย์ ศรีนครินทร์
ผ่าตัดกระเพาะหยุดโรคอ้วน ที่สินแพทย์ ศรีนครินทร์ ด้วยประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการบริการที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อการยับยั้งภาวะน้ำหนักเกิน พร้อมทั้งลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนและคงประสิทธิภาพได้อย่างยาวนาน