หลอดเลือดสมองผิดปกติเอวีเอ็ม…ปล่อยไว้ อันตรายถึงชีวิต !!! (Cerebral arteriovenous malformation)

21 พ.ค. 2568 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

โรคหลอดเลือดสมองผิดปกติเอวีเอ็ม (Cerebral arteriovenous malformation) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิดของหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำในสมองที่เชื่อมต่อกันผิดปกติ พบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แม้จะเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยแต่ถือเป็นโรคที่อันตราย เนื่องจากกว่าผู้ป่วยจะแสดงอาการและได้รับการวินิจฉัยก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือเลือดออกในสมองเกิดขึ้นแล้ว



โรคหลอดเลือดสมองผิดปกติเอวีเอ็ม (Cerebral arteriovenous malformation) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิดของหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำในสมองที่เชื่อมต่อกันผิดปกติ พบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แม้จะเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยแต่ถือเป็นโรคที่อันตราย เนื่องจากกว่าผู้ป่วยจะแสดงอาการและได้รับการวินิจฉัยก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือเลือดออกในสมองเกิดขึ้นแล้ว

 

อาการของโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ

แม้จะเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด แต่ผู้ป่วยมักแสดงอาการเมื่ออายุ 15 ปีขึ้นไปเนื่องจากขนาดของรอยโรคที่โตขึ้นเรื่อยๆ ผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแตกต่างกันขึ้นกับขนาดและตำแหน่งของรอยโรค อาการของผู้ป่วยอาจเกิดจากการแตกของหลอดเลือดสมองหรือเกิดจากความดันในสมองที่สูงขึ้น ดังนี้

  • ปวดศีรษะรุนแรง
  • เวียนศีรษะ สูญเสียการทรงตัว
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ชัก
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชา
  • ซึม สับสน
  • เสียการมองเห็น
  • พูดลำบาก
  • สูญเสียความสามารถในการสื่อสาร
  • มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ การเรียนรู้ หรือพฤติกรรม

 

การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ

แพทย์จะทำการถามซักประวัติและตรวจร่างกายโดยละเอียด ร่วมกับการตรวจเพิ่มเติมต่างๆเพื่อการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา ดังนี้

  • การฉีดสีตรวจหลอดเลือด (Cerebral arteriography)
  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง(CT Scan)
  • การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI)
  • การตรวจหลอดเลือดโดยเครื่องถ่ายภาพด้วยสนามแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Angiography)
  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG)

 

การรักษาโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ

วิธีการรักษาโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ แพทย์จะพิจารณาตามปัจจัยต่างๆในผู้ป่วยแต่ละราย เช่น ขนาดและตำแหน่งของรอยโรค อาการ อายุ โรคประจำตัว บางกรณีแพทย์อาจต้องใช้การรักษาหลายวิธีร่วมกัน

  1. การอุดหลอดเลือด (Endovascular embolization) โดยแพทย์จะทำการสอดท่อขนาดเล็กผ่านหลอดเลือดเข้าไปบริเวณตำแหน่งรอยโรค จากนั้นจะใช้ขดลวดขนาดเล็ก กาว หรือบอลลูน เข้าไปอุดหลอดเลือดนั้น
  2. การผ่าตัดเอาหลอดเลือดที่มีความผิดปกติออก เหมาะกับการรักษารอยโรคที่อยู่ไม่ลึก
  3. การฉายรังสี โดยการฉายรังสีพลังงานสูงไปยังบริเวณหลอดเลือดเพื่อให้รอยโรคฝ่อลง มักใช้ในกรณีที่รอยโรคนั้นมีขนาดเล็กและอยู่ลึกเข้าไปในสมอง
SHARE