โรคไข้ปวดข้อยุงลาย เกิดจากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา ติดต่อมาสู่คนได้โดยมียุงลายบ้าน (Aedes aegypti) และยุงลายสวน (Aedes albopictus) เป็นพาหะนำโรค โดยยุงตัวเมียซึ่งกัดเวลากลางวันจะกัดและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้สูงซึ่งเป็นระยะที่มีเชื้ออยู่ในกระแสเลือด เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ยุง เพิ่มจำนวนและเข้าไปสู่ต่อมน้ำลาย เมื่อยุงไปกัดคนอื่นก็จะปล่อยเชื้อไปให้คนที่ถูกกัดและเกิดโรคได้ โดยระยะฟักตัวจะนานประมาณ 2-12 วัน (ที่พบบ่อยคือ 2-7 วัน)
เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักหรือเคยได้ยินโรคไข้เลือดออกกันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้แอดมินอยากจะมาแนะนำโรคติดเชื้อไวรัสอีกโรคหนึ่งที่มียุงลายเป็นพาหะเช่นเดียวกับไข้เลือดออก และมีอาการใกล้เคียงกับโรคไข้เลือดออก นั่นก็คือ “โรคไข้ปวดข้อยุงลาย” หรือ “ไข้ชิคุนกุนยา”
สาเหตุโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
โรคไข้ปวดข้อยุงลาย เกิดจากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา ติดต่อมาสู่คนได้โดยมียุงลายบ้าน (Aedes aegypti) และยุงลายสวน (Aedes albopictus) เป็นพาหะนำโรค โดยยุงตัวเมียซึ่งกัดเวลากลางวันจะกัดและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้สูงซึ่งเป็นระยะที่มีเชื้ออยู่ในกระแสเลือด เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ยุง เพิ่มจำนวนและเข้าไปสู่ต่อมน้ำลาย เมื่อยุงไปกัดคนอื่นก็จะปล่อยเชื้อไปให้คนที่ถูกกัดและเกิดโรคได้ โดยระยะฟักตัวจะนานประมาณ 2-12 วัน (ที่พบบ่อยคือ 2-7 วัน)
อาการของโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
- ไข้สูงเฉียบพลัน
- ปวดข้อมาก มักจะเป็นที่ข้อเล็กๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า บางรายอาจปวดมากจนข้อบวม ขยับข้อไม่ได้ ระยะเวลาที่ปวดอาจเป็นได้ตั้งแต่ 1-12 สัปดาห์ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดข้อนานถึง 1 ปี
- ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ
- ผื่นแดงตามร่างกาย
- ส่วนใหญ่ไม่พบภาวะช็อคหรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเหมือนไข้เลือดออก
การรักษาโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
- โรคนี้ยังไม่มียารักษาเฉพาะ ใช้การรักษาแบบประคับประคองและการรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาลดไข้แก้ปวด การพักผ่อนให้เพียงพอ
การป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
- ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้
- การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้ยุงกัดและการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา
- เราควรป้องกันและดูแลตัวเองด้วยการระวังไม่ให้ยุงกัด
- ถ้ามีอาการที่สงสัยควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง