
โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันจากเชื้อแบคทีเรียบาซิลัส แอนทราซิส (Bacillus anthracis) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกมีรูปร่างเป็นเส้นยาวรี มักพบในดิน มีสัตว์กินหญ้าเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว กระบือ แพะ แกะ กวาง เป็นแหล่งโรค เชื้อนี้มีความทนทานมากสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานเป็นสิบปี
โรคแอนแทรกซ์เกิดจากอะไร ?
โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันจากเชื้อแบคทีเรียบาซิลัส แอนทราซิส (Bacillus anthracis) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกมีรูปร่างเป็นเส้นยาวรี มักพบในดิน มีสัตว์กินหญ้าเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว กระบือ แพะ แกะ กวาง เป็นแหล่งโรค เชื้อนี้มีความทนทานมากสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานเป็นสิบปี
โรคแอนแทรกซ์ติดต่อได้อย่างไร ?
เชื้อนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้ 3 ทางหลัก ได้แก่
- ผิวหนัง พบได้บ่อยที่สุด โดยการสัมผัสสัตว์ป่วย เชื้อจะเข้าสู่ผิวหนังบริเวณรอยถลอกหรือบาดแผล อาการมักไม่รุนแรงหากรักษาเร็ว
- ระบบทางเดินหายใจ โดยการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อเข้าไป อาการมักรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตสูง
- ระบบทางเดินอาหาร โดยการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อและไม่ผ่านการปรุงสุก หรือนมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาการมักรุนแรง
ระยะฟักตัวตั้งแต่รับเชื้อจนถึงแสดงอาการอยู่ระหว่าง 1-7 วัน แต่ถ้าเป็นการสูดหายใจรับสปอร์ของเชื้อเข้าไประยะฟักตัวอาจยาวนานถึง 60 วัน
อาการของโรคแอนแทรกซ์เป็นอย่างไร ?
- อาการทางผิวหนัง (Cutaneous anthrax) : บริเวณที่สัมผัสเชื้อจะเป็นตุ่มน้ำหรือตุ่มหนอง มักมีอาการคันและบวมรอบแผล ต่อมากลายเป็นแผลลึกที่มีตรงกลางยุบเป็นเนื้อตายสีดำ มักพบบริเวณนอกร่มผ้า
- อาการระบบทางเดินหายใจ (Inhalational anthrax) : มีไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ ไอ เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ไอเป็นเลือด หอบเหนื่อย จนถึงระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้
- อาการระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal anthrax) : ไข้สูง แผลในปาก ปวดท้อง ท้องเสียรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด อ่อนเพลีย ขาดน้ำและเกลือแร่
ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การติดเชื้ออาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดจนเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้
การวินิจฉัยโรคแอนแทรกซ์ทำอย่างไร ?
แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการที่สงสัยร่วมกับประวัติการสัมผัสโรคหรือมีความเสี่ยงสัมผัสโรค การตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจหาเชื้อแบคทีเรียในสิ่งส่งตรวจ เช่น ผิวหนังที่มีรอยโรค เลือด เสมหะ น้ำไขสันหลัง หรือการตรวจหาแอนติบอดีในเลือด
โรคแอนแทรกซ์รักษาอย่างไร ?
การรักษาจำเพาะคือการให้ยาปฏฺิชีวนะ เช่น ยาในกลุ่มเพนนิซิลิน อิริโทรมัยซิน ด็อกซีซัยคลิน ควิโนโลน ร่วมกับการรักษาประคับประคองตามอาการ การแก้ไขภาวะช็อคและระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
ป้องกันโรคแอนแทรกซ์ได้อย่างไร ?
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วยรวมถึงซากสัตว์
- ปรุงอาหารให้สุก ไม่ทานเนื้อสุกๆดิบ นมที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อหรืออาจมีการปนเปื้อน
- ล้างมือหรือทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งหลังสัมผัสสัตว์
- ถ้ามีสัตว์ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
- ฉีดวัคซีนสัตว์ในพื้นที่เกิดโรค
- การฉีดวัคซีนป้องกันแอนแทรกซ์ในคน มีใช้เฉพาะในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ
- ผู้ที่สัมผัสเชื้อแต่ยังไม่มีอาการ แนะนำให้กินยาป้องกันหลังสัมผัส