ไข้หวัดใหญ่… การรักษาและการป้องกัน

21 ก.ค. 2563 | เขียนโดย แพทย์ผู้ชำนาญการ แผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

ไข้หวัดใหญ่   เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ติดต่อได้ง่าย จากการไอ จาม และพูดคุยกันในระยะใกล้ชิด กับคนที่เป็นโรคนี้  หากเกิดในเด็ก หรือผู้สูงอายุจะมีความรุนแรง และภาวะแทรกซ้อนมาก บางรายอาจเสียชีวิตได้



ไข้หวัดใหญ่   เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ติดต่อได้ง่าย จากการไอ จาม และพูดคุยกันในระยะใกล้ชิด กับคนที่เป็นโรคนี้  หากเกิดในเด็ก หรือผู้สูงอายุจะมีความรุนแรง และภาวะแทรกซ้อนมาก บางรายอาจเสียชีวิตได้

 

อาการที่พบได้บ่อย ในโรคไข้หวัดใหญ่

  1. ไข้สูง บางครั้งหนาวสั่น
  2. ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนี้อมาก
  3. เจ็บคอ ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล
  4. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร จุกแน่นท้อง

 

ถ้าอยากรู้ว่าเป็น ไข้หวัดใหญ่ หรือไม่ ต้องทำอย่างไร

เนื่องจากไข้หวัดใหญ่ มีอาการคล้ายโรคติดเชื้อประเภทอื่น การตรวจร่างกายเบื้องต้น และซักประวัติ อาจไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยโรคได้

ในปัจจุบัน มีวิธีการตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่โดยตรง ที่ทราบผลเร็ว และแม่นยำ เป็นการตรวจที่ไม่เจ็บใช้เพียงไม้พันสำลี เช็ด หรือป้ายภายในโพรงจมูก (เรียกว่า Nasal Swab) แล้วนำมาใส่ในน้ำยาทดสอบ จะทราบผลภายใน 1 ชั่วโมง หากมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ จะให้การรักษาได้เร็วมากขึ้น

 

การรักษาไข้หวัดใหญ่

ปัจจุบันมียาที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้ คือ ยา Oseltamivir (หรือ ยา Tamiflu ®) ซึ่งผู้ป่วยจะได้ประโยชน์มากที่สุด หากได้ใช้ยานี้รักษาภายใน 2 วันแรกที่ตรวจพบว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาของการเป็นโรค ลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง และลดการระบาดของโรคได้

 

วิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

การป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีน เนื่องจากไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่มีผลกระทบมาก เช่น ทำให้ต้องขาดงาน ขาดเรียน อย่างน้อย 7-10 วัน และในบางรายอาจมีอาการรุนแรง จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ดังนั้น การฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันจึงมีความคุ้มค่ามากกว่า เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายในการรักษาเมื่อเป็นโรคแล้ว สิ่งสำคัญ คือ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือใกล้ชิดกับคนที่เป็นหวัด ไม่ควรใช้ของใช้ต่างๆ ร่วมกัน โดยเฉพาะช้อน จาม ชาม และไม่ควรอยู่ในสถานที่ที่แออัด เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ จะกระจายอยู่ในอากาศ และน้ำมูก น้ำลายของคนที่เป็นโรคนี้

อย่างไรก็ตามวัคซีน ไข้หวัดใหญ่ ควรฉีดทุกปี เพราะเชื้อไวรัสจะเปลี่ยนสายพันธ์ที่ระบาดแต่ละปีไม่เหมือนกัน

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ คือ ทำไมต้องฉีดทุกปี?

  • เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธ์ทุกปี การผลิตวัคซีนจึงมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี เพื่อให้ครอบคลุมเชื้อที่เป็นสาเหตุ
  • ภูมิคุ้มกันที่เกิดหลังฉีดวัคซีน จะมีความเฉพาะเจาะจง ต่อเชื้อที่ทำให้เกิดโรคเท่านั้น
  • หลังฉีดวัคซีน 2 สัปดาห์ จะเกิดภูมิคุ้มกันโรค และมีอายุได้นาน 1 ปี
  • ถ้าไม่ได้รับวัคซีนหลังจากระยะเวลา 1 ปี ถึงแม้เป็นเชื้อตัวเดิมก็จะป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้

 

พบแพทย์เฉพาะทาง แผนก หู คอ จมูก

ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ 

(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)

โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา 

โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา  

โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์  

โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์  

SHARE