ปวด เต้าบวม แดง ร้อน อาการเหล่านี้แม่ ๆ เจออยู่หรือเปล่า ? เต้านมอักเสบ เป็นอาการยอดฮิตสำหรับคุณแม่ป้ายแดง หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เป็นฝีหนองได้
Q : อาการของท่อน้ำนมอุดตันมีอะไรบ้าง
A: ปวดเต้านม พบก้อนแข็งบริเวณที่อุดตัน โดยมีอุณหภูมิไม่ต่างหรือสูงขึ้นเล็กน้อยจากจุดปกติ ไม่มีไข้ มักจะเป็นข้างเดียว และอาจพบจุดขาวบนหัวนม
Q: คุณแม่ควรปฏิบัติเบื้องต้นอย่างไรบ้าง
A: 1.ดูแลตนเอง สังเกตปริมาณน้ำว่าดื่มเพียงพอและชนิดอาหารที่รับประทานเข้าไปไม่มีไขมันมากจนเกินไป การใส่เสื้อชั้นในที่พอดีไม่คับหรือหลวมไป ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย
2.สังเกตการดูดนมของลูกและเต้านมว่าเข้าเต้าได้ถูกวิธี หากใช้เครื่องปั๊มนมให้ดูว่าตำแหน่งกรวยปั๊มถูกต้องหรือไม่
3.ระบายน้ำนมออกจากเต้าอย่างน้อย 8-12 ครั้งสม่ำเสมอใน 24 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของระบบต่อมน้ำเหลือง ข้างที่มีปัญหาออกน้อยให้เริ่มจากการให้ลูกดูดข้างที่ปกติก่อนเพื่อกระตุ้นสมองสั่งการหลั่งน้ำนม (let down reflex) แล้วสลับมาดูดอีกฝั่ง ประคบอุ่นร่วมกับการนวดกระตุ้นเต้านมในทิศทางเข้าหาลานหัวนม โดยไม่บีบเค้นจนเจ็บมากเกินไป
4.หากยังมีอาการของท่อน้ำนมอุดตันใน 24-48 ชั่วโมงหลังจากปฏิบัติข้างต้น ควรเข้ารับคำปรึกษาเพื่อลดโอกาสการเกิดเต้านมอักเสบและเป็นหนอง
5.หากมีปัญหาการดูดกลืนของลูก เช่น ปากครอบลานนมไม่ได้ ดูดได้ไม่แน่น ไม่นาน หรือมีอาการเหนื่อย ซีดหรือเขียวขณะดูดนม ควรปรึกษากุมารแพทย์
Q : การรักษาท่อน้ำนมอุดตันโดยการกายภาพทำได้อย่างไรบ้าง
A :1. การประคบอุ่นเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของท่อน้ำนมและหลอดเลือด
- การใช้คลื่นอัลตราซาวน์เพื่อขยายท่อน้ำนมและช่วยสลายก้อนแข็งที่อุดตันให้มีขนาดเล็กลง
- นวดเปิดท่อน้ำนมโดยนักกายภาพ
Q : ข้อควรระวังหรือข้อห้ามในการกายภาพคืออะไรบ้าง
A : 1. ภาวะเต้านมอักเสบติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับยาต้านจุลชีพ
- ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemaker) หรือมีหัวใจขาดเลือด
- ตรวจพบมะเร็งเต้านม
- ผ่าตัดเสริมเต้านม (ทำกายภาพได้แต่ควรระวัง)
- มีกระดูกหักในบริเวณหน้าอกที่ยังไม่เชื่อมกันดี
ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการแผนกสูตินรีเวช ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ