
เนื่องจาก ปวดท้อง เป็นอาการหนึ่งที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศ ทุกวัย ปัจจุบันมีแนวโน้มพบมีอาการมากขึ้นอาการปวดท้องมีหลายรูปแบบ คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า อาการปวดท้องเป็นโรคธรรมดา ใครๆ ก็เป็นกันทั้งนั้นอาจจะเป็นโรคกระเพาะอาหาร ลองซื้อยาธาตุ ยาลดกรดมารับประทาน เดี๋ยวอาการก็ดีขึ้น แต่ความจริงแล้วปวดท้องเป็นอาการหนึ่งที่พบเป็นโรคต่างๆ ได้มากมาย การค้นหาสาเหตุและแก้ไขที่สาเหตุ จะช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อน และโรคร้ายแรงอื่นๆ ได้
เนื่องจาก ปวดท้อง เป็นอาการหนึ่งที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศ ทุกวัย ปัจจุบันมีแนวโน้มพบมีอาการมากขึ้นอาการปวดท้องมีหลายรูปแบบ คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า อาการปวดท้องเป็นโรคธรรมดา ใครๆ ก็เป็นกันทั้งนั้นอาจจะเป็นโรคกระเพาะอาหาร ลองซื้อยาธาตุ ยาลดกรดมารับประทาน เดี๋ยวอาการก็ดีขึ้น แต่ความจริงแล้วปวดท้องเป็นอาการหนึ่งที่พบเป็นโรคต่างๆ ได้มากมาย การค้นหาสาเหตุและแก้ไขที่สาเหตุ จะช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อน และโรคร้ายแรงอื่นๆ ได้
เทคโนโลยี ตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคปวดท้อง
ตรวจระบบทางเดินอาหารด้วยกล้องแคปซูล (Capsule Endoscopy)
เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ใช้ในการวินิจฉัย โรคในระบบทางเดินอาหาร กล้องชนิดนี้ สามารถตรวจได้ถึงส่วนที่ลึกที่สุดของลำไส้เล็กในจุดที่การส่องกล้องโดยทั่วไปเข้าไม่ถึง ได้ผลการตรวจที่ละเอียด ถูกต้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์หรือกล้องสำรวจทางเดินอาหาร มีขนาดใกล้เคียงกับยาเม็ดชนิดแคปซูล ทำให้สามารถกลืนได้ สะดวกและปลอดภัย กระบวนการตรวจเริ่มจากให้คนไข้กลืน “กล้องแคปซูล” พร้อมกับน้ำ กล้องจะเคลื่อนที่ไป ตามส่วนต่างๆ ของระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก จนสิ้นสุดที่ลำไส้ใหญ่ จากนั้นกล้องแคปซูลนี้จะออกมาพร้อมกับการขับถ่ายอุจจาระ ซึ่งไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อร่างกายผู้ถูกตรวจโดยภาพภายในทางเดินอาหารจะถูกบันทึกไว้ที่เครื่องซึ่งเชื่อมต่อจากภายนอก ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 7 ชั่วโมง โดยสามารถบันทึกภาพได้ 2 ภาพ ต่อ วินาที และเก็บภาพได้ถึง 50,000 ภาพ
ข้อดี
การตรวจด้วยกล้องแคปซูล คือ ผู้เข้ารับการตรวจไม่ต้องบอบช้ำ หรือเจ็บตัวจากการตรวจ ด้วยวิธีแบบเดิมๆ เช่น การกลืนแป้งแล้วเอ็กซเรย์ กล้องแคปซูลยังสามารถหารอยโรคภายในลำไส้เล็ก ในช่วงที่มีความยาวมาก และในจุดที่ลึกมากได้
ตรวจลำไส้ใหญ่ ด้วยเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Colonography (CTC)/Virtual Colonoscopy)
สามารถใช้ทดแทนการตรวจโดยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ โดยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (CT-128 Slices) จะสแกนภาพภายในช่องท้อง แล้วประมวลภาพที่ได้เป็นภาพเสมือนจริงแบบ 3 มิติ ของโพรงภายในลำไส้ใหญ่ (Virtual Colonoscopy)เสมือนเป็นภาพที่เห็นได้จากการส่องกล้อง (Optical Colonoscopy) โดยไม่ต้องส่องกล้องจริงๆ
การตรวจดูสภาพโพรงภายในลำไส้ใหญ่ (Virtual Colonoscopy) ด้วยวิธีนี้ ไม่ยุ่งยากเหมือนการตรวจด้วยการส่องกล้องแบบเดิม ไม่มีการถ่ายอุจจาระเปื้อนเสื้อผ้าเหมือนกับการสวนแป้ง และสิ่งสำคัญ คือ ไม่ต้องใช้ยาที่ทำให้หลับ ดังนั้นภายหลังการตรวจเสร็จ สามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล สามารถตรวจได้รวดเร็ว ช่วยให้แพทย์มองเห็นความผิดปกติของส่วนอื่นๆ ในช่องท้องได้จากการตรวจครั้งเดียวกัน การตรวจด้วยวิธีนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีอาการบ่งชี้ของโรคแต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่
- คนทั่วไปที่มีอายุ 50ปีขึ้นไป
- มีประวัติครอบครัวโดยเฉพาะบิดามารดา เป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่
- เคยตรวจพบว่ามีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่
- มีประวัติลำไส้ใหญ่หรือเล็กอักเสบเรื้อรัง (Ulcerative colitis or Crohn’s disease)
- มีประวัติครอบครัวเป็นโรคติ่งเนื้อในลำไส้ (Familial polyposis)
- มีประวัติมะเร็งมดลูก รังไข่ หรือเต้านม ก่อนอายุ50ปี หรือก่อนประจำเดือนหมด
- เป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ที่รักษาแล้ว
ตรวจอวัยวะภายในช่องท้องด้วย MRI (Magnetic Resonance Imaging)/MRA (Magnetic Resonance Angiography)
เป็นการตรวจด้วยเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อหาก้อนเนื้องอกและมะเร็งในตับ ตับอ่อน และภายในช่องท้อง หาความผิดปกติของเส้นเลือดในช่องท้อง หลอดเลือดไต หลอดเลือดที่เลี้ยงลำไส้ ซึ่งมักตรวจพบในผู้ที่มีอายุ 60ปีขึ้นไป มีประวัติสูบบุหรี่ มีภาวะของหลอดเลือดที่แข็งตัวผิดปกติ หรือมีหินปูนมาจับที่ผนังของหลอดเลือด
ข้อดี
- ให้ภาพอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ตับ ตับอ่อน ไตและม้ามได้ละเอียด และชัดเจนกว่าการตรวจทางรังสีวิทยาอื่นๆ
- เห็นขนาดของอวัยวะและก้อนมะเร็งในอวัยวะนั้นๆ ได้
- เป็นการตรวจที่ไม่ใช้รังสี จึงทำให้ไม่มีผลข้างเคียงจากการตรวจด้วยรังสีเอ็กซเรย์
- ใช้ตรวจได้ในรายที่แพ้ Contrast media ในการทำ CT-Scan
ตรวจระบบทางเดินน้ำดี ถุงน้ำดี และตับอ่อน ผ่านสนามแม่เหล็ก (MRCP: Magnetic
Resonace Cholangiopancreatography)
การตรวจด้วยวิธีนี้สามารถมองเห็นอวัยวะที่อยู่รอบๆ ทั้งบริเวณที่เหนือจุดที่มีการอุดตันได้อย่างชัดเจน
เป็นวิธีการหนึ่งทีทดแทนการตรวจโดยการส่องกล้องฉีดสีท่อทางเดินน้ำดี (ERCP: Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography)
MRCP เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะดีซ่าน(ตัวเหลือง ตาเหลือง) ผู้ที่เป็นโรคนิ่วในระบบทางเดินน้ำดี เนื้องอก
หรือมะเร็งทั้งในท่อน้ำดีหรือตับอ่อนและบริเวณโดยรอบที่มีการอุดตัน
ตรวจและรักษาโรคระบบทางเดินน้ำดี และตับอ่อนโดยการส่องกล้อง (ERCP: Endoscopic
Retrograde Cholangiopancreatography)
เป็นการใช้กล้องร่วมกับการถ่ายภาพรังสี ในการวินิจฉัยและรักษา โรคระบบทางเดินน้ำดี อาทิ นิ่วใน
ท่อน้ำดี มะเร็งท่อน้ำดีบางชนิด ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น
การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาภาวะเลือดออกจากกระเพาะอาหาร (Argon Laser)
เป็นการใช้เลเซอร์เพื่อห้ามเลือดที่ออกในกระเพาะอาหาร โดยแสงเลเซอร์จะถูกส่งผ่านสาย Fiberoptic ที่อยู่ในช่องของกล้องส่องตรวจไปที่เนื้อเยื่อบริเวณที่มีเลือดออก เนื้อเยื่อจะดูดรับพลังจากแสงเลเซอร์เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเพื่อทำลายเส้นเลือดจนเกิดกลายเป็นลิ่มเลือดทำให้เลือดที่ออกหยุดได้
Argon Laser เป็นวิธีการใหม่ที่ค่อนข้างปลอดภัย ให้ความลึกในการเกิดความร้อนตื้นกว่าการใช้เลเซอร์
ชนิดอื่น และครอบคลุมพื้นที่ในการทำได้กว้าง จึงมีภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า
พบแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์โรคปวดท้อง แผนกระบบทางเดินอาหาร ตับ และ ทางเดินน้ำดี
ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ
(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)