โรคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ถ้าเลือกใช้วิธี CT Scan จะมีความแม่นยำ และช่วยพยากรณ์โรคได้ ทำให้รักษาได้ทัน วันนี้สินแพทย์ กาญจนบุรี จะพาไปทำความรู้จักแบบเจาะลึก
สแกนโรค รู้ไว รักษาทัน ด้วยการตรวจ CT Scan ที่ รพ.สินแพทย์ กาญจนบุรี
เพราะสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT Scan คือหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้คุณรู้จักร่างกายของคุณได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย แพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติของอวัยวะภายในได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ช่วยให้วินิจฉัยโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม รพ.สินแพทย์ กาญจนบุรี พร้อมให้บริการตรวจ CT Scan ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อมอบการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดให้กับคุณ ในวันนี้จะพาไปดูว่า CT Scan คืออะไร สำคัญยังไง ตรวจส่วนไหนได้บ้าง รวมถึงการเตรียมตัว และความเสี่ยง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันและลดความกังวลเกี่ยวกับเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ตัวนี้
CT Scan คืออะไร มีความสำคัญยังไง
CT Scan คือ เครื่อง x-ray คอมพิวเตอร์สำหรับวินิจฉัยความผิดปกติขององค์ประกอบภาพรวมในร่างกาย ผ่านตรวจตามจุดต่าง ๆ ที่แพทย์เป็นผู้กำหนด โดยจะฉายรังสี X-ray ไปยังจุดตรวจ และจะใช้คอมพิวเตอร์ผลิตเป็นภาพฉายอวัยวะนั้น ๆ ออกมา วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เพราะมีความละเอียดเหนือกว่าการ X-ray แบบเดิม และเพิ่มความแม่นยำในการพยากรณ์โรคได้
CT Scan สามารถตรวจส่วนไหนได้บ้าง
CT Scan สามารถตรวจได้ 4 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้
- ส่วนช่องท้องและทรวงอก : การตรวจ CT Scan ส่วนนี้อาจจะต้องมีการสวนสารทึบรังสี หรือน้ำเปล่าเข้าทางทวารหนัก และฉีดสารทึบรังสีไปยังหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ดูแลแผนกรังสี โดยคำนึงถึงผลเลือดและสุขภาพของผู้เข้ารับการทำ CT Scan เป็นหลัก
- ส่วนกระดูก : การตรวจ CT Scan ส่วนกระดูก สามารถดูได้ถึงกล้ามเนื้อ ข้อต่อ รวมถึงประเมินอาการของกระดูกสันหลัง ซึ่งมักใช้สำหรับวินิจฉัยโรคเนื้องอกกล้ามเนื้อ และข้อต่ออักเสบเป็นต้น
- ส่วนหลอดเลือด : การตรวจ CT Scan หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดแดงใหญ่ หลอดเลือดแดงของไต หลอดเลือกหัวใจ และหลอดเลือดแดงที่ขา ซึ่งตรวจส่วนนี้จะต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าไปทางหลอดเลือดดำ
- ส่วนสมอง : การตรวจ CT Scan ส่วนสมอง จะตรวจต่อมใต้สมอง ต่อมน้ำลาย ตา และคอ โดยจะใช้วิธีการฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ เพื่อการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำขึ้น
ตรวจ CT Scan มีขั้นตอนการเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนตรวจ CT Scan ควรมีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อม ดังนี้
- งดอาหาร 4-6 ชั่วโมง แต่สามารถดื่มน้ำเปล่าได้
- อนุญาตให้แพทย์แผนกรังสีฉีดสารทึบรังสีได้โดยการลงชื่อ
- หากมีโรคประจำตัว อาทิเช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน ภูมิแพ้ หรือกำลังตั้งครรภ์ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำ CT Scan
- สำหรับผู้ที่ตรวจช่องท้อง อาจจะต้องดื่มสารทึบรังสีหรือดื่มน้ำเปล่า ประมาณ 1 ลิตร โดยจะมีการเตรียมไว้ให้ก่อนเข้ารับการตรวจ
ความเสี่ยงของการตรวจ CT Scan
แม้ว่าการตรวจ CT Scan จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีความเสี่ยงบางประการที่ควรทราบ ดังนี้
ความเสี่ยงต่อรังสี
ความเสี่ยงต่อรังสี การตรวจ CT Scan เกี่ยวข้องกับรังสีโดยตรง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในระยะยาวได้ แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณรังสีที่ได้รับจากการตรวจ CT Scan นั้นอยู่ในระดับที่ปลอดภัย และก่อนการทำ CT Scan แพทย์จะทำการตรวจร่างกายโดยละเอียดอยู่แล้ว
ความเสี่ยงในการให้ยาระงับประสาท
ความเสี่ยงต่อการฉีดสารทึบรังสี เนื่องจากสารทึบรังสีที่ใช้ในการตรวจ CT Scan อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ผื่นคัน คันคอ หายใจลำบาก ในบางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นช็อกได้
แพ้สารทึบรังสี
อาการแพ้สารทึบรังสีอาจเกิดขึ้นได้ทันทีหลังจากได้รับยา หรืออาจเกิดขึ้นช้าหลายชั่วโมง
แพ้สารทึบรังสีรั่วออกหลอดเลือดดำ
หากสารทึบรังสีรั่วออกจากหลอดเลือดดำ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อบริเวณนั้น
ไตทำงานบกพร่อง
สารทึบรังสีบางชนิดอาจส่งผลต่อการทำงานของไต โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคไตอยู่ก่อนแล้ว
CT Scan กับ MRI ต่างกันอย่างไร
CT Scan กับ MRI ต่างกันอย่างไร หลาย ๆ คนมองว่าการตรวจวินิจฉัยโรคทั้ง 2 วิธีไม่น่าจะต่างกันมาก เพราะยังไงสุดท้ายแล้วก็ต้องเข้าอุโมงค์ทั้งคู่ แต่คุณกำลังเข้าใจผิด เพราะทั้ง CT Scan และ มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยจะแบ่งจุดที่แต่งต่างแบบชัด ๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายมากที่สุด
- CT Scan ปล่อยลำแสงเอกซเดรย์ ผ่านไปที่ลำตัว เพื่อให้เกิดภาพบนฉากที่กำลังรอรับลำแสงที่ปล่อย ส่วน MRI จะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้ารอบตัวผู้ที่กำลังเข้ารับการตรวจ และตรวจจับการเคลื่อนไหวของสนามแม่เหล็กว่ามีความเปลี่ยนไปหรือไม่
- CT Scan จะเหมาะกับการตรวจกระดูกมากกว่า อาทิเช่น ความเสื่อม ความเคลื่อน กระดูกทับเส้น เป็นต้น ในขณะที่ MRI เหมาะสำหรับตรวจวินิจฉัยอวัยวะที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น เนื้อเยื่ออ่อน หลอดเลือด สมอง กล้ามเนื้อ
- CT Scan มีระยะเวลาในการตรวจประมาณ 10-15 นาที ส่วน MRI จะใช้เวลาตั้งแต่ 45 นาที – 1 ชั่วโมง ผู้ที่มีประวัติกลัวที่แคบจึงควรขอรับคำปรึกษาและวิธีการปฏิบัติตัวกับแพทย์เพิ่มเติม
- CT Scan กับ MRI จะมีการใช้สารเพิ่มความชัด หรือที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าฉีดสารทึบเข้าร่างกาย แตกต่างกัน โดย CS Scan สารทึบจะมีส่วนผสมของไอโอดีน ส่งผลกระทบต่อไต ผู้ป่วยโรคไตจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ในขณะที่ MRI ไม่มีส่วนผสมของไอโอดีนจึงปลอดภัยกว่า
จองคิวตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT Scan กับสินแพทย์
หากคุณต้องการตรวจ CT Scan สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาและนัดหมายตรวจได้ที่โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี โดยมีโปรแกรมตรวจสุขภาพ 2 โปรแกรม ได้แก่
- โปรแกรมตรวจสุขภาพ แผน A ราคา 2,500 บาท มีรายละเอียดการตรวจดังนี้
- ตรวจร่างกายโดยแพทย์ตรวจสุขภาพ
- ตรวจเอกซเรย์ปอด
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
- ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- ตรวจหาภูมิคุ้มกันไว้รัสตับอักเสบบี
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
- ตรวจการทำงานของไต BUN และ Creatinine
- ตรวจการทำงานของตับ SGOT และ SGPT
- ตรวจระดับไขมันในเลือด Cholesterol, Triglyceride, HDL และ LDL
- ตรวจปัสสาวะอย่างสมบูรณ์
- ตรวจระดับกรดยูริคในเลือด
- โปรแกรมตรวจสุขภาพ แผน B ราคา 2,900 บาท มีรายละเอียดการตรวจดังนี้
- ตรวจร่างกายโดยแพทย์ตรวจสุขภาพ
- ตรวจเอกซเรย์ปอด
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
- ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- ตรวจหาภูมิคุ้มกันไว้รัสตับอักเสบบี
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
- ตรวจการทำงานของไต BUN และ Creatinine
- ตรวจการทำงานของตับ SGOT และ SGPT
- ตรวจระดับไขมันในเลือด Cholesterol, Triglyceride, HDL และ LDL
- ตรวจปัสสาวะอย่างสมบูรณ์
- ตรวจระดับกรดยูริคในเลือด
ทั้ง 2 โปรแกรมตรวจสุขภาพ ถ้าหากว่าคุณอยากจะทำการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือทำ CT Scan ก็สามารถแจ้งขอตรวจเพิ่มเติมได้
- CT Lower Abdomen ตรวจหาความผิดปกติในช่องท้องส่วนล่าง ราคา 5,200 บาท
- CT Upper Abdomen ตรวจหาความผิดปกติในช่องท้องส่วนบน ราคา 5,200 บาท
- CT Whole abdomen ตรวจหาความผิดปกติในช่องท้องทั้งหมด ราคา 8,000 บาท
- CT Chest ตรวจหาความผิดปกติในทรวงอก ราคา 5,200 บาท