ปวดศีรษะ แบบไหนอันตราย

31 ส.ค. 2563 | เขียนโดย ศูนย์สมอง โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

อาการปวดศีรษะ เป็นอาการแสดงของโรคไม่ใช่ตัวโรคเอง มีโรคอยู่หลายอย่างตั้งแต่ โรคที่เป็นอันตรายรุนแรง อย่างโรคเนื้องอกในสมอง โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคไม่รุนแรง เช่น ปวดศีรษะจากความเครียดก็ได้ครับ



Q:   โรคปวดศีรษะเกิดได้จากสาเหตุอะไรบ้างครับ?
A: 
อาการปวดศีรษะ เป็นอาการแสดงของโรคไม่ใช่ตัวโรคเอง มีโรคอยู่หลายอย่างตั้งแต่โรคที่เป็นอันตรายรุนแรง
อย่างโรคเนื้องอกในสมอง โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคไม่รุนแรง เช่น ปวดศีรษะจากความเครียดก็ได้ครับ

 

Q:  ถ้าอย่างนั้นเราจะทราบได้อย่างไร ว่าเราปวดศีรษะจากอะไรครับ?
A:   
โดยทั่วไปเรามักแบ่งโรคปวดศีรษะ ออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มที่มีรอยโรคอยู่ในสมองและศีรษะจริง ซึ่งเป็นอันตรายรุนแรงได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา โดยอาจเกิดอันตรายรุนแรงถึงชีวิตได้ เช่น โรคเนื้องอกในสมอง, หลอดเลือดสมองโป่งพอง, เลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง, เลือดคั่งในสมอง และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่ไม่ได้มีรอยโรคในสมอง หรือเยื่อหุ้มสมองเลย แต่เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะเอง เช่น โรคไมเกรน, ปวดศีรษะจากความเครียด, ปวดศีรษะจากเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ, ปวดศีรษะจากเส้นประสาทใบหน้าอักเสบ

 

Q:  คุณหมอครับ แล้วเราจะแยกได้อย่างไรล่ะครับว่าเราปวดศีรษะจากสาเหตุใน กลุ่มที่ 1 หรือกลุ่มที่ 2 ครับ?
A: 
เป็นคำถามที่ดีมากครับ อาการปวดศีรษะในกลุ่มที่ 1 หรือกลุ่มที่มีรอยโรคในสมอง และมักเป็นอันตราย จะมีลักษณะ
อาการปวดศีรษะ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างในนี้ครับ

  1. ปวดทันทีและรุนแรงมาก
  2. ปวดมากแบบที่ไม่เคยปวดมาก่อนเลยในชีวิต
  3. ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ โดยไม่มีช่วงหายดีเลย
  4. ปวดแบบใหม่ ซึ่งไม่เหมือนกับที่เคยปวดมาเป็นประจำ
  5. ปวดรุนแรง พร้อมกับมีอาการคอแข็ง หรืออาเจียนมาก
  6. ปวด พร้อมกับมีอาการอ่อนแรง มองเห็นภาพซ้อน ตามัว ซึมลง สับสน ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด หรือหมดสติ
  7. ปวดเมื่อ ไอ จาม หรือ เบ่งถ่ายอุจจาระจะยิ่งทวีความปวดขึ้น
  8. ปวดครั้งแรก เมื่ออายุมากกว่า 50ปี โดยไม่ได้มีโรคปวดหัวใด ๆ มาก่อน

 

Q:   ในปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีในการตรวจหาสาเหตุของอาการปวดศีรษะ อย่างไรบ้างครับ?
A:   
การตรวจเหล่านี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้เลือกให้เหมาะสมกับอาการของโรคที่เราสงสัย และลักษณะของผู้ป่วย
เช่น ถ้าสงสัยภาวะเลือดคั่งในสมอง หรือเส้นโลหิตในสมองแตก ควรตรวจด้วยเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เนื่องจากเป็นภาวะฉุกเฉิน เครื่องนี้จะตรวจได้ไว และไม่จำเป็นต้องเตรียมการตรวจซับซ้อน ถ้าสงสัยหลอดเลือดขอดในสมอง, เนื้องอกในสมอง อาจต้องทำการตรวจด้วย เครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) โดย  MRI-Scan หรือ MRA-Scan เพื่อดูอย่างละเอียดทั้งในส่วนของสมองและหลอดเลือด ถ้าสงสัยภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือเลือดออกซึมในขั้นเยื่อหุ้มสมอง นอกจากการตรวจ CT-Scan หรือ MRI-Scan  แล้ว แพทย์จำเป็นต้องเจาะตรวจน้ำไขสันหลังเพื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดต่อไปด้วยครับ

 

Q:  คุณหมอมีอะไรฝากถึงคนที่มีอาการปวดศีรษะบ้างครับ?
A: 
หากมีอาการปวดที่ชวนสงสัยโรคทางสมองที่กล่าวมาแล้ว ควรรีบพบแพทย์ หรือหากมีอาการไม่เหมือนข้อใดเลย แล้วรักษาไม่หาย ปวดศีรษะอยู่นาน ก็ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาการใช้ยาที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงจากการกินยาด้วยครับ อย่าลืมว่าโรคปวดศีรษะต้องรักษาที่ต้นเหตุของโรค ไม่ใช่ใช้เพียงยาแก้ปวดเท่านั้นนะครับ

 

พบแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์อายุรกรรมระบบประสาทและสมอง

ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ 

(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)

โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา 

โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา  

โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ 

โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์  

โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ 

SHARE