รักษาซึมเศร้าด้วย TMS เทคนิคเดียวกับกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

3 มี.ค. 2568 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม

รักษาซึมเศร้าด้วย TMS เทคนิคเดียวกับกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของผู้ป่วย ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง แม้ว่าการรักษาด้วยยาและจิตบำบัดจะเป็นแนวทางหลักในการฟื้นฟูอาการ แต่ก็ยังมีผู้ป่วยบางรายที่ตอบสนองต่อการรักษาได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยปัจจุบันทางการแพทย์มีแนวทางใหม่ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น นั่นคือ Transcranial Magnetic Stimulation (TMS) ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และสามารถนำมาปรับใช้ในการบำบัดอาการซึมเศร้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ โรงพยาบาลสินแพทย์ จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า แนวทางการรักษาทั้งในรูปแบบที่เราคุ้นเคย และการใช้ TMS ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่กำลังมองหาวิธีบำบัดที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

 

โรคซึมเศร้า เกิดจากอะไร 

โรคซึมเศร้าเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งด้านชีวภาพ จิตใจ และสังคม โดยอาจเกิดจากความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง เช่น เซโรโทนิน นอร์เอพิเนฟริน และโดปามีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์ นอกจากนี้ ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีผลต่อโอกาสเสี่ยงเช่นกัน รวมถึงปัจจัยด้านจิตใจ เช่น ความเครียดสะสม หรือประสบการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจโดยตรง เช่น การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก หรือความล้มเหลวในชีวิตส่วนตัวและการงาน ในบางกรณี ปัจจัยทางสังคม เช่น การขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ก็มีผลทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้

 

โรคซึมเศร้า

 

โรคซึมเศร้า รักษาแบบไหนได้บ้าง 

ปัจจุบันมีหลายแนวทางที่สามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าได้ โดยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคและสภาพของผู้ป่วย ได้แก่:

 

การรักษาด้วยยา

การรักษาด้วยยาต้านเศร้า (Antidepressants) เป็นแนวทางแรกที่แพทย์มักเลือกใช้ เพื่อปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง กลุ่มยาที่ใช้บ่อย ได้แก่ SSRIs และ SNRIs ซึ่งช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าและทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตาม ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

 

การรักษาด้านจิตใจ

การรักษาด้านจิตใจ คือ การทำจิตบำบัด หรือ Cognitive Behavioral Therapy (CBT) เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์ที่เป็นสาเหตุของภาวะซึมเศร้า นอกจากนั้น วิธีนี้ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีภาวะหรือโรคอื่น ๆ เช่น โรควิตกกังวล โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD) โรคแพนิค(Panic Disorder) เพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยรับมือกับความเครียดและความกังวลได้ดีขึ้น

 

การรักษาด้วยเทคโนโลยี

การรักษาด้วยเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในปัจจุบัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาหรือจิตบำบัด โดยเฉพาะการกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น เนื่องจากเป็นการรักษาที่ไม่ต้องใช้ยาและไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง โดยหลักการทำงานของ TMS คือการใช้คลื่นแม่เหล็กกระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และพฤติกรรม ซึ่งช่วยให้ระบบประสาททำงานได้อย่างสมดุลมากขึ้น วิธีนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ว่าสามารถช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้ารุนแรง หรือไม่สามารถทนผลข้างเคียงของยาได้

 

การรักษาด้วย TMS คืออะไร 

Transcranial Magnetic Stimulation (TMS) เป็นวิธีการรักษาที่ใช้พลังงานจากคลื่นแม่เหล็กกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เทคนิคนี้ได้รับการพัฒนาและนำมาใช้ในกลุ่มผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมอง เพื่อช่วยกระตุ้นระบบประสาทและฟื้นฟูสมอง นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้รักษาภาวะซึมเศร้าได้ โดยไม่ต้องพึ่งยา หรือการรักษาที่มีผลข้างเคียงรุนแรง

 

TMS รักษา

 

การรักษา TMS ช่วยในเรื่องโรคซึมเศร้าได้อย่างไรบ้าง

TMS ช่วยกระตุ้นสมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม การกระตุ้นนี้ช่วยให้สารสื่อประสาทกลับมาทำงานอย่างสมดุล ลดอาการซึมเศร้า และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยปกติการรักษาด้วย TMS จะใช้เวลาประมาณ 20-40 นาทีต่อครั้ง และต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4-6 สัปดาห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

ผลข้างเคียงของการรักษา TMS 

TMS เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูงและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ อาการปวดศีรษะเล็กน้อย หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณศีรษะขณะทำการรักษา ซึ่งมักจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง ในบางกรณี อาจมีอาการมึนศีรษะ หรือความรู้สึกเสียวบริเวณที่ทำการกระตุ้น แต่ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงเทียบเท่ากับยาต้านเศร้า

 

วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคซึมเศร้า 

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการของโรคซึมเศร้า ควรปฏิบัติตัวดังนี้:

  • เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อประเมินอาการและเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งช่วยบรรเทาความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้น
  • ฝึกเทคนิคการผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ หรือการฝึกหายใจลึก ๆ
  • หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น เช่น แอลกอฮอล์ และคาเฟอีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองและอารมณ์
  • เข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน การพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่มีภาวะเดียวกันสามารถช่วยให้รู้สึกไม่โดดเดี่ยว

 

สรุป

โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาทางสุขภาพจิตที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การรักษามีหลายวิธี ทั้งการใช้ยา จิตบำบัด และการรักษาด้วยเทคโนโลยี เช่น TMS ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โรงพยาบาลสินแพทย์ พร้อมให้บริการด้านการวินิจฉัยและรักษาโรคซึมเศร้า โรคหลอดเลือดสมอง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุดและสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

SHARE