การผ่าตัดคลอดบุตร

9 มิ.ย. 2564 | เขียนโดย นพ.พัฒนะ ไกรนิตย์

การผ่าตัดคลอดบุตร เมื่อได้รู้ว่ามีชีวิตใหม่เกิดขึ้นในครรภ์ นอกจากความยินดีของว่าที่คุณแม่และครอบครัวแล้ว การตัดสินใจเลือกวิธีการคลอดก็ยังเป็นปัญหาที่คุณแม่ทุกๆคนล้วนกังวลและยากที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกคลอดเองตามธรรมชาติ หรือ ผ่าตัดคลอด ซึ่งแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวเอง แต่บางครั้งคุณแม่บางคนก็เลือกไม่ได้จำเป็นต้องผ่าตัดคลอดเนื่องจากมีภาวะที่ทำให้ไม่สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้ เช่น ศีรษะของทารกมีขนาดใหญ่หรือเอียงในมุมที่ไม่สามารถผ่านลงมาในอุ้งเชิงกรานของมารดาได้ คุณแม่ที่เคยได้รับการผ่าตัดก้อนเนื้องอกที่มดลูกหรือเคยผ่าตัดคลอดมาก่อน มีภาวะรกเกาะต่ำที่ปากมดลูกขวางทางออกของทารกซึ่งถ้าให้ปล่อยคลอดเองจะทำให้เกิดการตกเลือดได้ มีภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดจนทำให้ทารกเกิดภาวะขาดออกซิเจนและอัตราการเต้นของหัวใจทารกช้ากว่าปกติ มีก้อนเนื้องอกที่ขวางอยู่บริเวณช่องทางคลอด เช่นก้อนเนื้องอกที่คอมดลูกหรือปากมดลูก มีรอยโรคที่อวัยวะเพศบางชนิด เช่น โรคเริมที่อวัยวะเพศขณะที่กำลังจะคลอดซึ่งถ้าคลอดทางช่องคลอดจะทำให้เกิดการติดเชื้อเริมในทารก, หูดขนาดใหญ่ที่บริเวณปากช่องคลอดซึ่งจะทำให้เลือดออกไม่หยุดจนตกเลือดเมื่อเกิดการฉีกขาด สายสะดือย้อยลงมาขวางศีรษะทารก ระยะรอคลอดนานเกินเกณฑ์หรือเร่งคลอดไม่สำเร็จ ทารกอยู่ในท่าผิดปกติเช่น นอนขวางลำตัว, เอาส่วนก้นนำลงมาในช่องทางคลอด เป็นต้น พบลักษณะการเต้นของหัวใจทารกผิดปกติที่อาจจะเกิดจากการขาดออกซิเจน และเมื่อเราหลีกเลี่ยงการผ่าตัดคลอดไม่ได้เราลองมาทำความรู้จักกับการผ่าตัดตลอดตลอดจนข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัดคลอดกัน ข้อดี สามารถกำหนดวัน เวลาที่จะคลอดได้ ไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดระหว่างช่วงรอคลอด ไม่ต้องเสี่ยงกับการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นขณะรอคลอด เช่น ทารกขาดออกซิเจนจากการที่สายสะดือถูกกดระหว่างรอคลอด, การฉีกขาดของช่องทางคลอดจากการใช้เครื่องดูดสุญญากาศหากมารดาไม่มีแรงเบ่ง, ทารกสำลักขี้เทาจากการถ่ายขี้เทาในครรภ์อันเนื่องมาจากการขาดออกซิเจน และอาจต้องเปลี่ยนไปผ่าตัดคลอดแทนเมื่อไม่สามารถคลอดเองได้สำเร็จจนทำให้ต้องเจ็บสองต่อ ข้อเสีย ปวดแผลผ่าตัดที่หน้าท้องมากกว่าและนานกว่า รวมทั้งใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าการคลอดเองกว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ มีโอกาสตกเลือดและเสียเลือดขณะคลอดมากกว่า เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนของการใช้ยาระงับความรู้สึกหรือยาดมสลบ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะรกเกาะต่ำหรือรกติดแน่นในครรภ์ถัดไป เสี่ยงต่อการเกิดพังผืดในช่องท้องหลังผ่าตัด เสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะข้างเคียงเช่น กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ เป็นต้น เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด หรือแผลผ่าตัดไม่ติด รวมทั้งแผลเป็นที่หน้าท้อง ราคาแพงกว่าการคลอดธรรมชาติและนอนโรงพยาบาลนานกว่าการคลอดเองทางช่องคลอด อย่างไรก็ตามการตัดสินใจของคุณแม่แต่ละคน ไม่ว่าจะเลือกผ่าตัดคลอดหรือคลอดเองตามธรรมชาติทางช่องคลอด ต่างก็มีเหตุผลและความจำเป็นของตัวเองซึ่งคุณแม่สามรถปรึกษากับสูติแพทย์ที่ฝากครรภ์อยู่เพื่อให้ได้ทางเลือกที่เหมาะสมและปลอดภัยกับทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์



การผ่าตัดคลอดบุตร

เมื่อได้รู้ว่ามีชีวิตใหม่เกิดขึ้นในครรภ์ นอกจากความยินดีของว่าที่คุณแม่และครอบครัวแล้ว การตัดสินใจเลือกวิธีการคลอดก็ยังเป็นปัญหาที่คุณแม่ทุกๆคนล้วนกังวลและยากที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกคลอดเองตามธรรมชาติ หรือ ผ่าตัดคลอด ซึ่งแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวเอง

แต่บางครั้งคุณแม่บางคนก็เลือกไม่ได้จำเป็นต้องผ่าตัดคลอดเนื่องจากมีภาวะที่ทำให้ไม่สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้ เช่น

  • ศีรษะของทารกมีขนาดใหญ่หรือเอียงในมุมที่ไม่สามารถผ่านลงมาในอุ้งเชิงกรานของมารดาได้
  • คุณแม่ที่เคยได้รับการผ่าตัดก้อนเนื้องอกที่มดลูกหรือเคยผ่าตัดคลอดมาก่อน
  • มีภาวะรกเกาะต่ำที่ปากมดลูกขวางทางออกของทารกซึ่งถ้าให้ปล่อยคลอดเองจะทำให้เกิดการตกเลือดได้
  • มีภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดจนทำให้ทารกเกิดภาวะขาดออกซิเจนและอัตราการเต้นของหัวใจทารกช้ากว่าปกติ
  • มีก้อนเนื้องอกที่ขวางอยู่บริเวณช่องทางคลอด เช่นก้อนเนื้องอกที่คอมดลูกหรือปากมดลูก
  • มีรอยโรคที่อวัยวะเพศบางชนิด เช่น โรคเริมที่อวัยวะเพศขณะที่กำลังจะคลอดซึ่งถ้าคลอดทางช่องคลอดจะทำให้เกิดการติดเชื้อเริมในทารก, หูดขนาดใหญ่ที่บริเวณปากช่องคลอดซึ่งจะทำให้เลือดออกไม่หยุดจนตกเลือดเมื่อเกิดการฉีกขาด
  • สายสะดือย้อยลงมาขวางศีรษะทารก
  • ระยะรอคลอดนานเกินเกณฑ์หรือเร่งคลอดไม่สำเร็จ
  • ทารกอยู่ในท่าผิดปกติเช่น นอนขวางลำตัว, เอาส่วนก้นนำลงมาในช่องทางคลอด เป็นต้น
  • พบลักษณะการเต้นของหัวใจทารกผิดปกติที่อาจจะเกิดจากการขาดออกซิเจน

และเมื่อเราหลีกเลี่ยงการผ่าตัดคลอดไม่ได้เราลองมาทำความรู้จักกับการผ่าตัดตลอดตลอดจนข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัดคลอดกัน

ข้อดี

  • สามารถกำหนดวัน เวลาที่จะคลอดได้
  • ไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดระหว่างช่วงรอคลอด
  • ไม่ต้องเสี่ยงกับการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นขณะรอคลอด เช่น ทารกขาดออกซิเจนจากการที่สายสะดือถูกกดระหว่างรอคลอด, การฉีกขาดของช่องทางคลอดจากการใช้เครื่องดูดสุญญากาศหากมารดาไม่มีแรงเบ่ง, ทารกสำลักขี้เทาจากการถ่ายขี้เทาในครรภ์อันเนื่องมาจากการขาดออกซิเจน และอาจต้องเปลี่ยนไปผ่าตัดคลอดแทนเมื่อไม่สามารถคลอดเองได้สำเร็จจนทำให้ต้องเจ็บสองต่อ

ข้อเสีย

  • ปวดแผลผ่าตัดที่หน้าท้องมากกว่าและนานกว่า รวมทั้งใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าการคลอดเองกว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • มีโอกาสตกเลือดและเสียเลือดขณะคลอดมากกว่า
  • เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนของการใช้ยาระงับความรู้สึกหรือยาดมสลบ
  • เสี่ยงต่อการเกิดภาวะรกเกาะต่ำหรือรกติดแน่นในครรภ์ถัดไป
  • เสี่ยงต่อการเกิดพังผืดในช่องท้องหลังผ่าตัด
  • เสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะข้างเคียงเช่น กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ เป็นต้น
  • เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด หรือแผลผ่าตัดไม่ติด รวมทั้งแผลเป็นที่หน้าท้อง
  • ราคาแพงกว่าการคลอดธรรมชาติและนอนโรงพยาบาลนานกว่าการคลอดเองทางช่องคลอด

อย่างไรก็ตามการตัดสินใจของคุณแม่แต่ละคน ไม่ว่าจะเลือกผ่าตัดคลอดหรือคลอดเองตามธรรมชาติทางช่องคลอด ต่างก็มีเหตุผลและความจำเป็นของตัวเองซึ่งคุณแม่สามรถปรึกษากับสูติแพทย์ที่ฝากครรภ์อยู่เพื่อให้ได้ทางเลือกที่เหมาะสมและปลอดภัยกับทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

 

ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช สาขาใกล้บ้านคุณ

โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์

โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์

โรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์

SHARE