โรคไทรอยด์เป็นพิษ
เกิดจากความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน (Autoimmune disease) ทำให้ต่อมไทรอยด์มีการสร้างฮอร์โมนที่มากกว่าปกติ โดยสาเหตุของโรค ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่พบว่ามีพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
อาการ
ที่พบ เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น มือสั่น น้ำหนักลด ขี้ร้อน เหงื่อออกมากกว่าปกติ ถ่ายบ่อย คอโตขึ้น ตาโปน มือเท้าอุ่นและมีเหงื่อออก ในผู้ป่วยบางรายอาจพบแขนขาอ่อนแรง (periodic paralysis) ร่วมด้วยได้ ซึ่งหากทิ้งไว้นานไม่ทำการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและหัวใจวายได้
การรักษา
ในปัจจุบันมีสามวิธีหลัก
1.การกินยาต้านไทรอยด์ ใช้เวลาในการรักษา 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย การหยุดยาที่เร็วเกินไปจะทำให้โรคกลับเป็นซ้ำได้
2.การกลืนรังสีไอโอดีน เป็นการใช้รังสีรักษาปริมาณน้อย เพื่อควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้ลดลง ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องพักรักษาในโรงพยาบาล แต่อาจต้องพักงาน และลดการสัมผัสกับบุคคลอื่นหลังการรักษา 5-7 วัน โดยต่อมไทรอยด์จะมีขนาดเล็กลงหลังการรักษา มีโอกาสเกิดภาวะไทรอยด์ต่ำหลังการรักษาสูง ต้องกินยาไทรอยด์ฮอร์โมนต่อภายหลังการรักษา
3.การผ่าตัด สามารถควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว แต่ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน และมีโอกาสเกิดภาวะไทรอยด์ต่ำหลังการรักษาเช่นกัน อาจพิจารณาในกรณีมีโรคอื่นของต่อมไทรอยด์ร่วมด้วย เช่นเนื้องอกต่อมไทรอยด์
การปฏิบัติตัว
กินยาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการควบคุมและติดตามโรคได้ดี
การกินอาหารโดยทั่วไป ไม่มีอาหารที่ห้ามเป็นพิเศษ แต่บางภาวะ เช่น ช่วงแรกที่เริ่มรักษายังมีภาวะไทรอยด์เป็นพิษอยู่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน เช่น กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง เพราะอาจกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นอีกได้ หรือหากมีแผนการรักษาเป็นการกลืนรังสีไอโอดีน ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารทะเลหรืออาหารที่มีไอโอดีนสูงช่วงก่อนการกลืนรังสี เป็นต้น
ไม่มีสมุนไพร หรืออาหารเสริมที่มีหลักฐานชัดเจนว่าช่วยในการรักษา หรือควบคุมโรค แต่ตรวจพบว่าการกิน ซีลีเนียม มีผลดีต่อการรักษาโรคอยู่บ้าง
การออกกำลังกาย
หากเป็นการทำกิจวัตรทั่วไปเช่นการเดิน ไม่มีข้อจำกัด แต่หากต้องการออกกำลังกายทีมีความหนักมากขึ้นเช่น High Intensity Interval Training หรือ การออกกำลังกายแบบมีการแข่งขัน (Competitive exercise) ควรมีการเฝ้าระวังการเต้นของหัวใจ หรือ อาจงดไปก่อนจนกว่าโรคจะมีการควบคุมที่ดีขึ้น
ระหว่างการรักษาสตรีควรคุมกำเนิดจนกว่าโรคจะสงบจนหยุดยาได้ระยะหนึ่ง หากต้องการตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตนเองตั้งครรภ์ระหว่างการรักษาควรรีบแจ้งแพทย์ผู้รักษา เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกันต่อไป
สอบถามเพิ่มเติมที่ได้ที่ 02-006-8888
สนใจปรึกษาแพทย์สาขาใกล้บ้านคุณ
#เบื้องหลังทุกการรักษาคือความใส่ใจ
#ให้สินแพทย์เป็นเพื่อนคุณ
#โรงพยาบาลสินแพทย์ศรีนครินทร์