เด็กหรือผู้ใหญ่..ก็ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยวัคซีน HPV

19 ก.พ. 2564 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์
“มะเร็งปากมดลูก” คือหนึ่งในโรคที่ผู้หญิงทุกคนต้องระวัง ถึงแม้ว่าจะเป็นเป็นโรคมะเร็งที่ป้องกันและรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ แต่ก็ยังคงมีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งชนิดนี้เพิ่มขึ้นถึงปีละกว่า 8,000 ราย ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงจนติดอันดับ 2 ในประเทศไทย
โดยสาเหตุที่สำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูกนั้นมาจากเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นกลุ่มไวรัสที่ติดต่อผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง
.
ดังนั้น เพศสัมพันธ์จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสติดเชื้อไวรัสสูงถึงร้อยละ 80 โดยประมาณ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสูบบุหรี่หรือคนรอบข้างสูบบุหรี่ หรือมีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี
.
การฉีดวัคซีนป้องกันการเกิดระยะมะเร็งไว้จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยสามารถฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยวัคซีนนี้จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีก็ต่อเมื่อยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน หรือฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุประมาณ 9-15 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีที่สุด
.
การฉีดวัคซีน HPV เพื่อสร้างแอนติบอดีป้องกันไม่ให้เชื้อ HPV เจริญเติบโตนั้น แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. ชนิด 2 สายพันธุ์ (Cervarix) สามารถป้องกันเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 โดยสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70 %
2. ชนิด 4 สายพันธุ์ (Gardasil) สามารถป้องกันเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 โดยสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70 % และสามารถป้องกันเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 6 และ 11 ที่ทำให้เป็นโรคหูดหงอนไก่ได้มากถึง 90 %
.
.
พบแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์สูตินรีเวชที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ
(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา  

โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์  

โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์  

โรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์

 

 

SHARE