ชอบแคะหูระวัง! แคะผิดวิธีเสี่ยงอันตราย
หลายๆท่านคงเคยใช้ไม้พันสำลีปั่นหู หรือใช้ไม้แคะหูแคะขี้หูเองเมื่อมีอาการหูอื้อ แต่ทราบหรือไม่ว่าอาการหูอื้อนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ การปั่นหูหรือแคะหูเองอาจไม่ได้ช่วยให้อาการหูอื้อนั้นดีขึ้น และอาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้มากมาย โดยทั่วไปจึงไม่แนะนำให้ท่านแคะหูเอง แต่ควรมาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและตรวจรักษาอย่างถูกวิธี
อันตรายจากการแคะหู
การแคะหูเองนั้นนอกจากจะแคะขี้หูได้ไม่หมดเนื่องจากมองเห็นได้ไม่ชัดเจนแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อหูชั้นนอก ซึ่งประกอบไปด้วยใบหู รูหู และเยื่อแก้วหู ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ดังนี้
1.การบาดเจ็บของรูหู (Traumatic ear canal injury) รูหูมีแผล เลือดไหล มีอาการปวดบวม หูอื้อ
แนวทางการรักษา ดูดเลือดที่ค้างในรูหู และอาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาแก้ปวด
2.หูชั้นนอกอักเสบ(Acute otitis externa) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักเกิดตามหลังแคะหู 3-4 วัน มีอาการปวด รูหูบวม หูอื้อ มีน้ำหรือหนองไหลจากหู ถ้าเป็นมากการติดเชื้ออาจลุกลามไปบริเวณใบหูหรือบริเวณรอบๆได้
แนวทางการรักษา ดูดหนอง และทำความสะอาดรูหู และใช้ยาปฏิชีวนะชนิดหยอด ในรายที่อาการรุนแรงอาจพิจารณาใช้ยาปฏิชีวนะชนิดกินร่วมด้วย
3.แก้วหูทะลุ(Traumatic tympanic membrane perforation) เกิดจากการที่ไม้แคะทำอันตรายต่อเยื่อแก้วหูโดยตรง มักมีอาการหูอื้อทันทีหลังแคะหู ได้ยินเสียงก้องในหู อาจรู้สึกเหมือนมีลมออกหู อาจเกิดร่วมกับภาวะหูชั้นนอกอักเสบได้
แนวทางการรักษา แพทย์จะทำการประเมินอาการบาดเจ็บของรูหู และเยื่อแก้วหู และรักษาภาวะหูชั้นนอกอักเสบก่อน โดยทั่วไปแล้วรูทะลุสามารถปิดเองได้ถึง 90% แพทย์จะนัดดูอาการอย่างต่อเนื่อง และตรวจประเมินการได้ยิน หากรูทะลุนั้นไม่ปิดเองภายใน 3 เดือน ร่วมกับมีการสูญเสียการได้ยิน หรือมีเสียงดังรบกวน แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดเพื่อปิดแก้วหูต่อไป
พบแพทย์เฉพาะทาง แผนก หู คอ จมูก
ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ
(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)