เนื้องอกเยื่อหุ้มสมอง (Meningioma) คือ เนื้องอกที่เกิดขึ้นในชั้นเยื่อหุ้มสมองและเยื่อหุ้มไขสันหลัง เป็นเนื้องอกที่พบบ่อยที่สุดในสมองที่เกิดจากเนื้อสมองเอง พบได้ทุกช่วงอายุ แต่พบได้บ่อยขึ้นในช่วงอายุ 45 ปีขึ้นไป
ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นเนื้องอกเยื่อหุ้มสมองมีอะไรบ้าง ?
ในปัจจุบันพบปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสการเกิดเนื้องอกเยื่อหุ้มสมอง เช่น
- การเป็นโรคทางพันธุกรรมท้าวแสนปม (Neurofibromatosis) ชนิดที่ 2
- เคยได้รับการฉายรังสีบริเวณศีรษะมาก่อน
- เพศหญิงพบบ่อยกว่าเพศชาย
- การสูบบุหรี่
- การใช้ฮอร์โมนเพศหญิง
อาการของเนื้องอกเยื่อหุ้มสมองเป็นอย่างไร ?
เนื้องอกเยื่อหุ้มสมองเป็นเนื้องอกที่มีการเติบโตค่อนข้างช้า ผู้ป่วยมักค่อย ๆ แสดงอาการทีละน้อย อาการจะขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของก้อนเนื้องอก อาการที่อาจพบได้ เช่น
- ปวดศีรษะเรื้อรัง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- แขนขาอ่อนแรง
- ชาครึ่งซีก ชาใบหน้า
- เห็นภาพซ้อน ตามัว
- สูญเสียการรับกลิ่นหรือการได้ยิน
- เวียนศีรษะ เดินเซ
- หลงลืมง่าย
- ซึม สับสน
- พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
- ชักกระตุก
เนื้องอกเยื่อหุ้มสมองรักษาอย่างไร ?
การรักษาเนื้องอกเยื่อหุ้มสมอง จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วย ชนิดของเนื้องอก ขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก และการแพร่กระจายไปอวัยวะอื่น
- การผ่าตัด เป็นการรักษาหลักสำหรับเนื้องอกเยื่อหุ้มสมอง โดยเฉพาะเนื้องอกในระดับที่ 1 หากสามารถผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออกได้หมด การรักษามักได้ผลดี
- การฉายรังสี ใช้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ หรือในผู้ป่วยที่ตรวจพบเนื้องอกเยื่อหุ้มสมองระดับ 2 หรือ 3 หลังการผ่าตัดแพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาโดยการฉายรังสีเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตและลดโอกาสการเป็นซ้ำของเนื้องอก
- การให้ยาเคมีบำบัด ใช้สำหรับเนื้องอกเยื่อหุ้มสมองระดับที่ 2, 3 และระดับที่ 1 ที่การผ่าตัดและการฉายรังสีไม่ได้ผล