
ปวดท้องแบบไหน ที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
อาการปวดท้องที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม และละเลยสุขภาพของตนเอง เพราะคิดว่าใช้เวลาสักพักอาการปวดก็จะหายไป หรือเพียงแค่รักษาอาการด้วยการไปร้านขายยาก็คงจะดีขึ้น แต่หารู้ไม่เพียงแค่อาการปวดเล็กน้อยในครั้งนั้น อาจนำไปสู่สาเหตุของการเกิดโรคที่รุนแรงและบั่นทอนสุขภาพร่างกายโดยรวมให้เสื่อมถอยได้
โดยทั่วไปอาการปวดท้องนั้นอาจเป็นสัญญาณของการเกิดโรคกระเพาะ ในขณะเดียวกันก็มีสิทธิ์เป็นอะไรร้ายแรง เช่น โรคนิ่วในถุงน้ำดี วันนี้สินแพทย์ เทพารักษ์ จะพาทุกคนไปสังเกตอาการเบื้องต้น เพื่อการป้องกันความรุนแรงของโรค และแยกระหว่างกระเพาะกับนิ่วในถุงน้ำดีได้อย่างตรงจุด
ความแตกต่างระหว่างโรคกระเพาะกับนิ่วในถุงน้ำดี
ความแตกต่างระหว่างของโรคกระเพาะกับนิ่วในถุงน้ำดี มีดังนี้
โรคกระเพาะ
ลักษณะของโรคกระเพาะ มักมีอาการปวดแสบ แน่นท้อง บางครั้งอาจมีอาการท้องอืดร่วมด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะปวดในช่วงเวลาก่อนและหลังการรับประทานอาหาร
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะ อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานข้าวไม่ตรงเวลา การดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งความเครียดที่สามารถนำไปสู่การเกิดโรคได้
วิธีวินิจฉัย
วิธีการวินิจฉัย แพทย์จะทำการซักประวัติของผู้ป่วยโดยละเอียด และพิจารณาวิธีการตรวจโรคตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการส่องกล้อง การตรวจเลือด หรือการตัดชิ้นเนื้อเพื่อวิเคราะห์ความผิดปกติของโรค
การรักษา
การรักษาโรคกระเพาะ สามารถเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ตรงตามเวลา การผ่อนคลายความเครียด ร่วมกั[การใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์
นิ่วในถุงน้ำดี
โรคนิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากการสะสมของสารบิลิรูบินที่อยู่ภายในร่างกาย รวมทั้งปริมาณของคอเลสเตอรอลที่มีความเข้มข้นสูง ทำให้มีการตกผลึกภายในถุงน้ำดี ลักษณะของก้อนนิ่ว มีลักษณะในขนาดที่เป็นผงเล็ก ๆ ไปจนถึงก้อนขนาดใหญ่เท่าลูกปิงปอง และสามารถมีจำนวนตั้งแต่หนึ่งก้อนไปจนถึงจำนวนหลายร้อยก้อน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวด เสียด ตลอดจนอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และมีอาการปวดร้าวไปที่บริเวณสะบักหลัง
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดก้อนนิ่ว เกิดจากถุงน้ำดีมีระดับคอลเลสเตอรอลสูง รวมทั้งภาวะน้ำหนักเกิน
วิธีวินิจฉัย
การตรวจวินิจฉัย แพทย์จะทำการซักประวัติของผู้ป่วยโดยละเอียด หากสงสัยว่าเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี แพทย์จะทำการอัลตราซาวน์บริเวณช่องท้องส่วนบน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เห็นจำนวนก้อนนิ่วได้อย่างชัดเจน
การรักษา
วิธีการรักษา สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัด ดังนี้
- การผ่าตัดโดยส่องกล้อง เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง พร้อมทั้งมีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก และลดความเสี่ยงในการเกิดผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี
- การผ่าตัดด้วยวิธีเปิดหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดที่บริเวณชายโครงด้านขวา มักใช้วิธีนี้กับผู้ที่มีอาการของโรครุนแรง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน
วิธีสังเกตอาการเบื้องต้น
คือสังเกตอาการของโรคเบื้องต้น ประกอบด้วย
ตำแหน่งปวด
ตำแหน่งที่มักมีอาการปวด จะอยู่บริเวณใต้ลิ้นปี่หรือบริเวณใต้ชายโครงทางด้านขวาของร่างกาย
ลักษณะปวด
ลักษณะของอาการปวด มักมีอาการจุกเสียด แน่นท้อง และมีลมภายในช่องท้อง บางครั้งอาจทำให้รู้สึกปวดร้าวไปยังบริเวณสะบักหลังได้
ระยะเวลาที่ปวด
ระยะเวลาที่ทำให้เกิดอาการปวด มักเกิดขึ้นหลังจากการรับประทานอาหาร อาจมีอาการปวดทุก 30 นาที – 1 ชั่วโมง และบางครั้งอาการปวดอาจกำเริบขึ้นในช่วงเวลากลางคืนในระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ปัจจัยกระตุ้น
ปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ เกิดได้จากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอล และไขมันสูงในปริมาณมาก เพราะเป็นการส่งผลให้เกิดการสะสมและเกิดการตกตะกอนภายในถุงน้ำดีเพิ่มมากขึ้น
อาการอื่น ๆ
นอกเหนือจากอาการแน่นท้อง ปวดท้อง ในบางครั้งผู้ป่วยอาจมีอาการแทรกซ้อนที่ส่งผลต่อระบบร่างกายส่วนอื่น ๆ เช่น
- ถุงน้ำดีอักเสบ จะทำให้ผู้ป่วยปวดท้องขั้นรุนแรง รู้สึกเจ็บเมื่อกดหน้าท้องบริเวณถุงน้ำดี รวมทั้งเกิดอาการหนาวสั่น เป็นไข้ได้
- ตับและตับอ่อนอักเสบ จะทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะดีซ่าน มีอาการตัวเหลือง
- หากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่ อาจเพิ่มความเสี่ยงสูงในการเป็นมะเร็งในถุงน้ำดี
ปวดท้องแบบไหน ต้องรีบมาพบแพทย์โดยด่วน
แม้อาการเริ่มต้นของโรคจะยังไม่รุนแรงมาก แต่เมื่อใดที่อาการปวดท้อง แน่นท้อง ตลอดจนท้องอืดท้องเฟ้อเกิดขึ้นบ่อย และระดับความรุนแรงของอาการเพิ่มขึ้นทุกครั้ง รวมด้วยอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น เป็นไข้ หนาวสั่น และอาการปวดร้าวไปยังบริเวณหลัง ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อการรักษาได้อย่างทันท่วงที
สรุป
หากมีอาการปวดท้องบ่อย ๆ พร้อมทั้งมีอาการที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง อาจมีความเสี่ยงในการมีก้อนนิ่วภายในถุงน้ำดี ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจโดยละเอียด และทำการรักษาอาการตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เมื่ออ่านบทความมาถึงส่วนนี้ หวังว่าทุกคนจะมีความรู้ ความเข้าใจถึงวิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี และหากคุณกำลังสงสัยในอาการของตนเอง สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้ที่สินแพทย์ ลำลูกกาด้วยการบริการจากทีมศัลยแพทย์ชำนาญการ พร้อมด้วยเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย