เช็กพัฒนาการของลูกน้อย จากการตั้งครรภ์ด้วย Ultrasound 4D

2 ธ.ค. 2567 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา

เพราะคุณแม่ทุกคนเมื่อมีการตั้งครรภ์แล้ว ก็อยากจะรู้ความเป็นไปของลูก บทความนี้จะพามาแนะนำ Ultrasound 4D ตรวจความสมบูรณ์ 4 มิติ ว่าคืออะไร ดียังไง และตรวจที่ไหนดี



เช็กพัฒนาการของทารก จากการตั้งครรภ์ด้วย Ultrasound 4D ตรวจความสมบูรณ์ 4 มิติ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการได้รู้พัฒนาการของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกวิธีการอัลตราซาวด์ 2 มิติ และอัลตราซาวด์ 3 มิติ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของทารกอย่างใกล้ชิด ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ที่ไปฝากครรภ์ด้วย ซึ่งก็ทำให้ได้เห็นจริง ๆ แต่อาจจะยังไม่มีความชัดเจนมากพอ

 

แต่ความจริงแล้วในตอนนี้ ด้วยความที่เทคโนโลยีสุดแสนจะก้าวกระโดด ทำให้สามารถเห็นใบหน้าของลูกได้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงตรวจสอบพัฒนาการต่าง ๆ ผ่านการ Ultrasound 4D หรือในชื่อภาษาไทย “ตรวจความสมบูรณ์ 4 มิติ” ซึ่งนั่นหมายความว่าการอัลตราซาวด์ชนิดนี้ จะเห็นเด็กในระหว่างการตั้งครรภ์ ได้อย่างละเอียด

 

ในวันนี้สินแพทย์ ลำลูกกาจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการอัลตราซาวด์ 4D กันให้มากขึ้นทั้งในแง่มุมของหลักการทำงาน และดีกว่าอัลตราซาวด์แบบอื่นยังไง พร้อมแนะนำสถานที่ ที่ให้บริการแบบที่ได้รับมาตรฐานในระดับสากล

 

 

อัลตราซาวด์ มีประโยชน์อย่างไร ทำไมถึงต้องอัลตราซาวด์

อัลตราซาวด์ มีประโยชน์ยังไง ทำไมถึงต้องอัลตราซาวด์ คำถามนี้เราตอบได้เลยว่า การอัลตราซาวด์นั้นมีประโยชน์มาก ๆ ถ้าในมุมเหตุผล คือ สามารถตรวจสอบความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ ในขณะเดียวกันหากพูดถึงด้านอารมณ์ การได้พบกับทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกจะค่อย ๆ ก่อตัวเป็นความรัก ความผูกพัน นอกจากนี้การอัลตราซาวด์ ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ ดังนี้

 

ตรวจสอบอายุครรภ์

การตรวจสอบอายุครรภ์ จะช่วยให้แพทย์ประเมินอายุครรภ์ได้อย่างแม่นยำ เพื่อวางแผนการดูแลและเตรียมตัวสำหรับการคลอด

 

ตรวจสอบโอกาสลูกแฝด

ตรวจสอบโอกาสการเกิดลูกแฝด และสามารถระบุผลลัพธ์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยสามารถพบได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 6-13 สัปดาห์

 

ตรวจสอบการตั้งครรภ์ในโพรงมดลูก

ตรวจสอบการตั้งครรภ์ในโพรงมดลูก เพื่อยืนยันว่าตัวอ่อนฝังตัวอยู่ในโพรงมดลูกอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

 

ตรวจประเมินรังไข่และมดลูก

ตรวจประเมินรังไข่และมดลูก ตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น เนื้องอก หรือถุงน้ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์

 

ตรวจประเมินโครงสร้างของลูก

ตรวจประเมินโครงสร้างของลูก ตรวจสอบความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ ของทารก เช่น หัวใจ สมอง และกระดูกสันหลัง เพื่อตรวจหาความผิดปกติแต่กำเนิด

 

 

อัลตราซาวด์ มีกี่แบบ

 

อัลตราซาวด์ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีกี่แบบ

อัลตราซาวด์ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

 

อัลตราซาวด์ 2 มิติ

อัลตราซาวด์ 2 มิติ เป็นเครื่องมืออัลตราซาวด์ระดับพื้นฐาน เป็นลักษณะของภาพตัดขวางทีละรูป ตามแนวคลื่นเสียงระนาบ โดยภาพที่ได้จะเป็นสีขาว ดำ และไม่มีมิติ ไม่เห็นความลึก-ตื้น รวมถึงไม่เห็นใบหน้าของทารกด้วยเช่นเดียวกัน

 

อัลตราซาวด์ 3 มิติ

อัลตราซาวด์ 3 มิติ เป็นเครื่องมืออัลตราซาวด์ที่ซับซ้อนขึ้นกว่า 2 มิติ จะเห็นทารกชัดเจนกว่าเดิม เพราะมีความกว้าง ความยาว และความลึก สิ่งที่เห็นได้เพิ่มเติมจาก 2 มิติ มากขึ้นแต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะเห็นแบบละเอียด คือ อวัยวะภายนอกและใบหน้า แต่ก็พอจะจินตนาการได้ว่าทารกจะมีหน้าตาประมาณไหน

 

อัลตราซาวด์ 4 มิติ

อัลตราซาวด์ 4 มิติ เป็นเครื่องมืออัลตราซาวด์ที่ละเอียดที่สุด โดยสิ่งที่เพิ่มจากความกว้าง ความยาว ความลึก คือ เวลา นำภาพแต่ละช่วงเวลามาประมวลผล และจัดเรียงรูปจนเกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่เสมือนจริง ทำให้เห็นรายละเอียดของทารกชัดที่สุดในบรรดาอัลตราซาวด์ทุกแบบ

 

 

หลักการทำงานของ Ultrasound 4D มีอะไรบ้าง

หลักการทำงานของ Ultrasound 4D มีอะไรบ้าง ขอขยายเพิ่มเติมจากด้านบน อัลตราซาวด์ 4D เป็นการนำเทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูงมาประยุกต์ใช้ในการสร้างภาพสามมิติของทารกในครรภ์ และเมื่อนำภาพสามมิติเหล่านี้มาเรียงต่อกันตามลำดับเวลา ก็จะได้ภาพเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นพัฒนาการของทารกได้อย่างชัดเจน โดยสรุปหลักการทำงานได้ดังนี้

 

  • ส่งคลื่นเสียง : เครื่องอัลตราซาวด์จะส่งคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านหน้าท้องของแม่
  • สะท้อนกลับ : คลื่นเสียงจะสะท้อนกลับมาเมื่อกระทบกับอวัยวะภายในของทารก
  • รับสัญญาณและแปลงเป็นภาพ : เครื่องจะรับสัญญาณที่สะท้อนกลับมาและแปลงเป็นภาพสามมิติ
  • สร้างภาพเคลื่อนไหว : ภาพ 3 มิติที่ได้จะถูกนำมาเรียงต่อกันตามลำดับเวลา ทำให้ได้ภาพเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นพัฒนาการของทารก

 

 

Ultrasound 4D ตรวจความสมบูรณ์ 4 มิติ ดียังไง

อัลตราซาวด์ 4 มิติ นอกจากจะให้ภาพที่ชัดเจนและสมจริงแล้ว ยังมีข้อดีอีกมากมาย ดังนี้

 

  • เห็นใบหน้าของลูกชัดเจน : ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นใบหน้าของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และสามารถสังเกตลักษณะต่าง ๆ เช่น ตา จมูก ปาก ได้อย่างละเอียด
  • เห็นพัฒนาการของลูก : สามารถเห็นทารกขยับตัว ดูดนิ้ว หาว ยิ้ม หรือแม้แต่หลับได้ ทำให้เข้าใจพัฒนาการของทารกได้ดียิ่งขึ้น
  • ตรวจหาความผิดปกติได้เร็ว : ช่วยให้แพทย์ตรวจพบความผิดปกติของทารกได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับสมอง หัวใจ หรืออวัยวะอื่น ๆ
  • สร้างความผูกพันในครอบครัว : การได้เห็นภาพทารกเคลื่อนไหวจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกผูกพันกับทารกมากขึ้น และเตรียมตัวเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ได้อย่างพร้อม
  • เพิ่มความมั่นใจ : การตรวจอัลตราซาวด์ 4 มิติ ช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าทารกมีสุขภาพแข็งแรง

 

 

อัลตราซาวด์ 4D

 

เมื่อไหร่ที่ควรทำ Ultrasound 4D ตรวจความสมบูรณ์ 4 มิติ

การทำ Ultrasound 4D ตรวจความสมบูรณ์ 4 มิติ เริ่มทำได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 26-28 ของการตั้งครรภ์ แต่ไม่ควรเกินสัปดาห์ที่ 35 เพราะเวลานั้นเด็กอาจจะกำลังเริ่มกลับหัวสำหรับเตรียมพร้อมในการลืมตาออกมาดูโลกภายนอกแล้ว

 

 

Ultrasound 4D ดีกว่าแบบอื่น ๆ อย่างไร

อัลตราซาวด์ 4 มิติ มีข้อดีเหนือกว่าอัลตราซาวด์ 2 มิติ และ 3 มิติ ดังนี้

 

  • ภาพมีความสมจริง เห็นใบหน้า ร่างกาย และการเคลื่อนไหวชัดเจน
  • เห็นพัฒนาการของลูกแบบเรียลไทม์
  • ตรวจหาความผิดปกติของเด็กทารกได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มความผูกพันในครอบครัว ทำให้แม่ผูกพันกับทารกได้มากขึ้น
  • สามารถเก็บภาพอัลตราซาวด์ 4 มิติ ไว้เป็นที่ระลึกได้

 

 

Ultrasound 4D ที่ไหนดี

ขอแนะนำสถานที่ทำอัลตราซาวด์ 4 มิติที่โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา เพราะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือสะดวกและครบครัน ตามมาตรฐานโรงพยาบาลในระดับสากล หากสนใจทำอัลตราซาวด์ 4 มิติ สามารถติดต่อได้ที่แผนกสูตินรีเวช หรือติดต่อเบอร์ 02-006-9999 จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่จะตรวจแต่สุขภาพและพัฒนาการของทารกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คุณแม่ก็ควรใส่ใจสุขภาพของตัวเอง เพื่อป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษ และโรคแทรกซ้อนระหว่างคลอด รวมถึงโรคที่จะเกิดขึ้นหลังคลอดเช่นเดียวกัน

 

 

SHARE