ไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง สารนี้อยู่ในหลายรูปแบบ ทั้งในรูปของแข็ง ของเหลว แก๊ส เช่น Hydrogen Cyanide, Potassium Cyanide, Sodium Cyanide โดยมีการนำไซยาไนด์มาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การสกัดแร่ ผลิตกระดาษ พลาสติก หนังเทียม นอกจากนี้ ไซยาไนด์ยังพบในพืชบางชนิด เช่น มันสำปะหลังดิบ หน่อไม้สด และถั่วบางชนิด สารนี้หากมีการปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อาการของพิษจากไซยาไนด์เป็นอย่างไร ?
เมื่อไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกาย จะไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ ทำให้เซลล์เกิดภาวะขาดออกซิเจน ที่สำคัญคือเซลล์สมองจนไปถึงระบบหัวใจและหลอดเลือด อาการและความรุนแรงของพิษขึ้นอยู่กับชนิด ปริมาณ และระยะเวลาที่ได้รับสาร อาการที่พบได้มีดังนี้
- ระคายเคืองบริเวณที่สัมผัส
- เวียนศีรษะ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- หายใจลำบาก หายใจช้า
- อ่อนแรง
- หมดสติ ชัก
- ความดันโลหิตต่ำ
- หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น
พิษจากไซยาไนด์รักษาอย่างไร ?
- รักษาประคับประคองตามอาการ โดยการดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง ให้ออกซิเจน ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และยากระตุ้นความดันกรณีมีความดันโลหิตต่ำ รักษาภาวะเลือดเป็นกรด หรือให้ยากันชัก
- รักษาแบบจำเพาะ กรณีทราบสาเหตุการสัมผัสสารพิษ โดยการให้ยาต้านพิษในกลุ่ม Sodium Nitrite และ Sodium Thiosulfate
ทำอย่างไรหากสัมผัสไซยาไนด์ ?
- หากสัมผัสไซยาไนด์ทางผิวหนัง ให้รีบถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนสารออก แล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่
- หากสัมผัสทางดวงตา ให้ใช้น้ำสะอาดล้างตาอย่างน้อย 10 นาที
- หากสูดดมอากาศที่มีไซยาไนด์ปนเปื้อน ควรออกจากพื้นที่บริเวณนั้นโดยเร็วที่สุด
- ในกรณีที่ผู้ป่วยหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทำ CPR แต่ “ห้ามใช้วิธีเป่าปาก” เพื่อป้องกันผู้ช่วยเหลือได้รับพิษ
- รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด