Charcot Foot คือ โรคที่กระดูก ข้อต่อ และเนื้อเยื่ออ่อนของเท้าและข้อเท้าถูกทำลาย เนื่องจากความผิดปกติของเส้นประสาทจากภาวะต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคเบาหวาน ทำให้เท้ามีการอักเสบเรื้อรัง เกิดการแตกของกระดูก กระดูกเคลื่อน และเท้าผิดรูปตามมา
Charcot Foot เกิดจากอะไร ?
เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทที่เท้า ทำให้เกิดการอักเสบและมีเลือดไปเลี้ยงกระดูกมากขึ้น มีการขับแคลเซียมออกจากกระดูก กระดูกสลายและแตกหักง่าย เมื่อความรู้สึกที่เท้าเสียไป ทำให้ผู้ป่วยยังคงใช้งานเท้าโดยไม่เจ็บปวด การอักเสบจึงเกิดขึ้นต่อเนื่อง จนในที่สุดกระดูกเท้ามีการแตกหักยุบตัว ทำให้เท้าผิดรูป และสูญเสียการใช้งานในที่สุด
โรคหรือภาวะที่ทำให้เกิดความผิดปกติของเส้นประสาท ซึ่งพบเป็นสาเหตุของ Charcot Foot ได้ เช่น
- โรคเบาหวาน
- โรคซิฟิลิส (Tabes Dorsalis)
- เนื้องอกของไขสันหลัง
- กระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท
- โรคโปลิโอ (Poliomyelitis )
- โรคเรื้อน (Leprosy)
- โรคอะมัยลอยด์ (Amyloid)
- ภาวะพิษสุราเรื้อรัง
อาการของ Charcot Foot เป็นอย่างไร ?
ในระยะแรก เท้าจะมีอาการบวม แดง ร้อน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดร่วมด้วย แต่ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจไม่มีอาการปวดเลย เนื่องจากความรู้สึกที่เท้าเสียไป ต่อมาหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เท้าจะเริ่มผิดรูปบวมนูนจากกระดูกแตกหักและข้อต่อเคลื่อน ตำแหน่งที่พบได้บ่อยคือ บริเวณกลางฝ่าเท้า ทำให้เกิดลักษณะเท้าผิดรูปที่เรียกว่า Rocker-Bottom Foot Deformity ผิวหนังบริเวณที่บวมนูนอาจเกิดเป็นแผลเรื้อรังจากการกดทับหรือเสียดสีตามมา
การรักษา Charcot Foot ทำอย่างไร ?
- การพักลงน้ำหนักเท้า ยกเท้าสูง และการใส่เฝือก Total Contact Cast เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหว และป้องกันการแตกสลายของกระดูกมากขึ้น
- การรักษาแผลกดทับและภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนที่เกิดร่วม
- การรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อแก้ไขความพิการผิดรูปในระยะยาว การผ่าตัดมีหลายวิธีตามลักษณะอาการผิดรูปที่เกิดขึ้น เช่น การตัดกระดูกที่ยื่นออกมาที่ฝ่าเท้า การใส่เหล็กดามกระดูกเท้าให้เข้ารูป การผ่าตัดเส้นเอ็น
- การทำกายภาพบำบัดภายหลังการถอดเฝือกหรือการผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงและข้อติด