4 เหตุผลที่คนอายุน้อยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง

17 ส.ค. 2566 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์

โรคหลอดเลือดสมองแตกเป็นโรคที่มักเกิดจากความเสื่อมของหลอดเลือดนำไปสู่ภาวะการตีบ ตัน และแตกได้ในที่สุด



เราพบว่า คนอายุน้อยเป็นโรคหลอดเลือดสมองกันมากขึ้น คือกลุ่มคนที่อายุน้อยกว่า 55 ปี เป็นเพราะอะไร ถึงได้เจอโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มคนที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ

 

ทำไมคนอายุน้อยเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ ?

 

โรคเส้นเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตและการทุพพลภาพ ที่พบได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงวัยแต่ว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่เกิดได้เฉพาะในผู้สูงอายุ จริงหรือ??

จริงๆแล้ว โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่ความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองจะเพิ่มขึ้นโดยเท่าตัว ถ้าอายุมากกว่า 45 ปี
และมากกว่า 70% ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด มักจะพบในกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 65 ปี

แต่จากประสบการณ์ของหมอ ในฐานะแพทย์อายุรกรรมระบบประสาทและสมองเราเจอคนไข้ที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ ที่เริ่มเป็น โรคหลอดเลือดสมองครั้งแรก

คำว่าอายุน้อยในที่นี้ หมายถึง อายุน้อยกว่า 50 หรือ 55 ปี เพราะฉะนั้น เราคงพูดไม่ได้เต็มปากแล้วละค่ะว่า โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคของคนสูงอายุเสมอไปเรามาดูกันค่ะ ว่าเป็นเพราะอะไร ถึงได้เจอโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มคนที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ

จากการศึกษา เราพบว่าคนอายุน้อยเป็นโรคหลอดเลือดสมองกันมากขึ้น
คือ กลุ่มช่วงอายุตั้งแต่ 18-55 ปี มีปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้เป็น 4 ลำดับแรกๆ ที่ทำให้คนอายุน้อยๆ ก็สามารถเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้มากกว่าคนทั่วไป

 

1. ภาวะอ้วนลงพุง (Abdominal Obesity)

ภาวะอ้วนลงพุง น่ากลัวกว่าที่คิดนะคะ เพราะ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่พบมากที่สุดเป็นอันดับแรกเลย ว่าสัมพันธ์กับโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดสมองถึง 66%
ภาวะอ้วนลงพุงนั้นคำนวณมากจาก Waist-to-Hip Ratio หรือ ตัวย่อคือ WHR โดยมีวิธีการวัดคือ เอาเส้นรอบเอว ที่วัดตรงระดับสะดือ หน่วยเป็น นิ้ว มาหารกับ เส้นรอบสะโพก ที่วัดตรงระดับ ปุ่มกระดูกต้นขา (Greater trochanter) โดยนำค่าที่ได้มาเทียบกับสัดส่วนแยกตามเพศ หากเป็นเพศชาย ได้ค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0.93 เพศหญิงได้ค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0.86 จะถือว่า มีภาวะอ้วนลงพุง หรือ Abdominal obesity

 

2. การสูบบุหรี่

จากการศึกษาพบว่า คนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองนั้น พบว่า เป็นคนที่สูบบุหรี่มากถึง 56%

ทั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะว่า การสูบบุหรี่ ทำให้เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เพิ่มความดันโลหิตสูง ดังนั้น การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจตามมาได้

โดยหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังคิดที่อยากจะเลิกบุหรี่ หมอแนะนำเลยนะคะ ว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก และถ้าทำได้เร็วมากแค่ไหน ก็จะดีกับตัวคุณมากเท่านั้น เพราะว่า การหยุดสูบบุหรี่ นั้น จะช่วยลดความเสี่ยงที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้ตั้งแต่ปีแรกหลังจากเลิกสูบบุหรี่เลยค่ะ

 

3. การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ

“แค่ขยับ…ก็เท่ากับออกกำลังกาย” คำกล่าวนี้ อาจจะยังไม่เพียงพอ ในแง่ของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจ เพราะคำว่า นิยามของการออกกำลังกายที่เหมาะสมนั้นคือ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องมากกว่า 30 นาทีต่อครั้ง เป็นจำนวนมากกว่า 5 ครั้งภายใน 1 สัปดาห์ แต่ถึงกระนั้น ก็อาจะจะไม่ใช่ทุกคนที่สามารถหาเวลาออกกำลังกายได้เท่านี้ อย่างน้อย ถ้าคุณสามารถหาเวลาออกกำลังกายได้ปานกลาง เช่น ประมาณ 20-30 นาที ได้ประมาณสัก 3 ครั้ง/สัปดาห์ ก็ยังพบว่ามีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ออกกำลังกายเลย หรือ กลุ่มคนที่เดินน้อยกว่า 1 ไมล์ต่อวัน (ประมาณ 1.6 กม. หรือประมาณ 2,000 ก้าว/วัน)

การที่ร่างกายของเราขยับน้อยในแต่ละวัน (Physical inactivity) จากงานวิจัยชิ้นนี้พบว่า มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้ถึงประมาณ 48% โดยจะพบมากขึ้นถึง 50% ถ้าเป็นเพศหญิง และ 47%ในเพศชาย

 

4. ความดันโลหิตสูง

ภาวะความดันโลหิตสูงเป็นเหมือนผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเนื่องมาจาก 3 สาเหตุแรก ไม่ว่าจะเป็นภาวะอ้วนลงพุง การสูบบุหรี่ การไม่ออกกำลังกาย ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดภาวะความมดันโลหิตสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และภาวะความดันโลหิตสูงเอง ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต้นๆที่ทราบกันว่า เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดสมองตีบหรือแตก

โดยจากการศึกษานี้พบว่า โรคความดันโลหิตสูงมีความสัมพันธ์กับภาวะโรคหลอดเลือดสมองสูงถึงประมาณ 47% เลยทีเดียว

ในปัจจุบัน หมอพบว่าในคนไทย เป็นโรคความดันโลหิตสูงกันเร็วขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อายุยังน้อย คือช่วงวัย 30-45 ปี ก็เริ่มที่จะพบโรคความดันโลหิตสูงกันบ้างแล้ว แต่ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ การได้รับการรักษาเพื่อลดความดันโลหิตสูงนั้นได้ประโยชน์ทั้งนั้น ในแง่ของการป้องกันโรคเส้นเลือดสมอง

แม้ว่าผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป การรักษาด้วยยาเพื่อช่วยลดความดันโลหิตจะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง 30% และสามารถลดอัตราการเส่่ียชีวิตได้ถึง 21% แต่กระนั้นเอง สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือ คนส่วนมาก ไม่ค่อยทราบว่าตนเองเป็นโรคความดันโลหิตสูง และมีส่วนน้อย ประมาณเพียงแค่ ⅓ เท่านั้น ที่สามารถจะควบคุมความดันโลหิตสูงของตนเอง ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้

 

โดยสรุป

จากเหตุผลทั้ง 4 ประการ จะเห็นได้ว่า เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองที่สำคัญมาก และสามารถเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ดังนั้น โรคหลอดเลือดสมอง จึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว และอย่าประมาท เพราะคิดว่าโรคนี้เป็นโรคของผู้สูงอายุเสมอไปนะคะ

 

ปรึกษาแพทย์ชำนาญการศูนย์โรคระบบประสาทและสมองที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์

โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์

พญ.อาภากร ซึงถาวร

SHARE