รักษาได้ทัน หากมาถึงโรงพยาบาลภายใน 3 ชั่วโมง
วิธีสังเกตอาการของโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน มีดังต่อไปนี้
F : Face Weak : ให้ยิงฟันหรือยิ้ม สังเกตเห็นปากเบี้ยวหรือมุมปากตก
A : Arm Weak : ให้ยกแขนทั้ง 2 ข้าง ปล่อยค้างไว้ 10 นาที พบว่ามีแขนข้างใดข้างหนึ่งตก หรือยกไม่ขึ้น
S : Speech Loss : ชวนคุย สังเกตว่าพูดไม่ชัด หรือพูดไม่รู้เรื่อง
T : Time : อย่าเสียเวลาหากมีอาการข้างต้นแม้เพียง 1 ข้อ ควรรีบพามาโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เนื่องจากหลังเกิดอาการภายใน 3 ชั่วโมง หากให้การรักษาได้ทัน เซลล์สมองจะยังไม่ถูกทำลายไปมาก โอกาสหายและกลับมาเป็นปกติจึงเป็นไปได้สูง
การรักษาภาวะหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลันในปัจจุบัน ถ้ามาได้ทันเวลา ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องลงเอยรักษาด้วยการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ โดยแพทย์จะให้ยาละลายลิ่มเลือด ผ่านทางหลอดเลือดดำ หรือใช้เทคโนโลยีใหม่ โดยการใส่สายสวนเข้าทางหลอดเลือดบริเวณขาหนีบ แล้วฉีดสีดูตำแหน่งของหลอดเลือดที่เกิดการตีบหรืออุดตัน เมื่อพบจุดดังกล่าวแพทย์จะทำการรักษาได้ทันทีผ่านทางสายสวนหลอดเลือด โดยฉีดยาละลายลิ่มเลือดเพื่อให้ลิ่มเลือดมีขนาดเล็กลงหรือสลายตัวไป จนไม่มีการอุดตัน เลือดก็สามารถไปเลี้ยงสมองได้ตามปกติ ในขั้นตอนของการรักษาด้วยวิธีการใส่สายสวนหลอดเลือดนี้ ถ้าตรวจพบว่ามีการตีบของผนังภายในหลอดเลือด แพทย์ก็สามารถใส่บอลลูน (Balloon) หรือตาข่ายลวด (Stent) เพื่อช่วยถ่างขยายหลอดเลือดที่ตีบให้กว้างขึ้นได้ทันที เลือดก็จะสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้สะดวก ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการใส่สายสวนนี้ จะต้องประกอบด้วย ความพร้อมของห้องปฏิบัติการขยายหลอดเลือด (Catheterization Laboratory) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญของการรักษาโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน และจะช่วยให้ลดอัตราความพิการ จากอัมพฤกษ์ อัมพาตหรือสูญเสียต่อชีวิตได้
อาการเตือนของภาวะสมองขาดเลือด
- แขนขาอ่อนแรง ซีกใดซีกหนึ่ง
- ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด
- ตามัว หรือ ตามองไม่เห็นข้างใดข้างหนึ่ง หรือเห็นภาพซ้อนทับทันทีทันใด
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เฉียบพลันและอาเจียนพุ่ง
- เวียนศีรษะอย่างรุนแรง เดินเซ เสียการทรงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ ข้างต้น
** อาการเตือนเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นกับซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย หรือเกิดทั้ง 2 ซีกพร้อมกันก็ได้ เมื่อมีอาการควรรีบพาผู้ป่วยมาพบแพทย์ทันที เพราะโรคหลอดเลือดสมองยิ่งรักษาเร็วเท่าใด จะช่วยลดความเสียหายต่อสมองแบบยาวนานได้
