สาเหตุการเกิดมะเร็งตับ

20 ก.ค. 2563 | เขียนโดย พญ.จิตราภา  เกิดสุขนิรันดร์ อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร

มะเร็งตับคืออะไร

มะเร็งตับ หรือ Hepatocellular carcinoma คือ โรคที่เกิดจากเซลล์ตับที่ผิดปกติ เกิดการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเซลล์มากกว่าปกติ จนเกิดเป็นก้อนในตับ และ อาจมีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด กระดูก

 

สาเหตุเกิดจากอะไร

มะเร็งตับส่วนใหญ่เกิดจาก โรคตับแข็ง ซึ่งอาจจะเกิดจากสาเหตุได้หลากหลาย เช่น การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ตับอักเสบจากไขมันพอกตับ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี หรือ ซี การได้รับสารบางชนิด เช่น อะฟลาท็อกซิน ซึ่งมาจากเชื้อรา ที่ปนเปื้อนในอาหารแห้ง ธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วลิสง

นอกจากนี้มะเร็งตับยังอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง หรือ ตับอักเสบจากไขมันเกาะตับเป็นเวลานาน โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีภาวะตับแข็งก็ได้

 

อาการและอาการแสดงของมะเร็งตับมีอะไรบ้าง

ปวดท้องโดยเฉพาะใต้ชายโครงขวา หรือบริเวณลิ้นปี่ ท้องบวมโต มีน้ำในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลือง ตาเหลือง อาเจียนเป็นเลือด ตรวจพบการทำงานของตับผิดปกติ

 

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงโรคมะเร็งตับ

    • ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือ ไวรัสตับอักเสบซี
    • ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
    • ผู้ป่วยโรคตับแข็ง
    • มีภาวะอ้วน ตับอักเสบจากไขมันพอกตับ

การตรวจและวินิจฉัยโรคมะเร็งตับทำได้อย่างไรบ้าง

ผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถตรวจคัดกรองได้ด้วยการทำ อัลตราซาวน์ช่องท้องส่วนบน และอาจเจาะเลือดเพื่อดูค่าคัดกรองมะเร็งตับ (AFP) ควบคู่ไปด้วย หากพบความผิดปกติที่สงสัยมะเร็งตับ แพทย์จะส่งตรวจ CT scan หรือ MRI เพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยโรค และอาจจำเป็นต้องทำการเจาะเอาชิ้นเนื้อที่ตับมาตรวจทางพยาธิวิทยาในบางราย

 

วิธีการรักษาโรคมะเร็งตับในปัจจุบัน มีวิธีใดบ้าง

แนวทางการรักษามะเร็งตับ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาร่วมกัน ได้แก่ ขนาด และ จำนวนก้อนในตับ การกระจายของโรค ค่าการทำงานของตับ และสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ป่วย โดยหากเป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้น สามารถรักษาให้หายขาดได้โดย การผ่าตัดตับเอาก้อนมะเร็งออก (hepatic resection) หรือ จี้ทำลายก้อนมะเร็ง (ablation) หรือ การผ่าตัดเปลี่ยนตับ (liver transplantation) หากเป็นมะเร็งระยะลุกลาม เป้าหมายเพื่อชะลอการโตของก้อน และป้องกันการเกิดผลแทรกซ้อนจากก้อน ทำได้โดย การฉีดยาและอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อน หรือ การฉายแสงที่ก้อน หรือ การให้ยากินเพื่อประคับประคองมะเร็งตับ

 

เราจะป้องกันมะเร็งตับได้อย่างไรบ้าง

การป้องกันมะเร็งตับที่ดีที่สุด คือ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะตับแข็ง ได้แก่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ลดความอ้วน ควบคุมน้ำหนัก และ ออกกำลังกาย เพื่อป้องกันและ รักษาภาวะไขมันพอกตับ ป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และ ซี โดยงดการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การสัก การใช้ใบมีดโกน หรือ กรรไกรตัดเล็บร่วมกับผู้อื่น งดการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หากยังไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี ควรได้รับการฉีดวัคซีน หากเป็นผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงควรได้รับการตรวจเช็ค ตามคำแนะนำของแพทย์ และ หากจำเป็นต้องรักษาด้วยยา ควรกินยาอย่างสม่ำเสมอ

 


พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ รพ.สินแพทย์ ใกล้บ้านคุณ

โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา

โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์

โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์

SHARE