ช็อกโกแลตซีสต์ โรคที่ผู้หญิงพึงระวัง

14 ธ.ค. 2565 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์

สาวๆ ที่ปวดท้องน้อยขณะมีประจำเดือนเป็นประจำ ทำได้แค่เพียงกินยาแก้ปวด ไม่ยอมไปตรวจ ต้องรอให้ปวดจนทนไม่ไหวถึงจะไปหาหมอ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็อาจจะเป็นช็อกโกแลตซีสต์ไปซะแล้ว หากชะล่าใจ ปล่อยปละละเลย ถึงขั้นเสี่ยงเป็นมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ได้ในที่สุด ดังนั้นมาทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงโรคนี้

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ “ช็อกโกแลตซีสต์”

โดยปกติแล้วภายในโพรงมดลูกจะมีเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งจะหนาตัวและมีเลือดคั่ง จากนั้นก็จะสลายตัวเป็นเลือดประจำเดือน แต่ในบางคนเยื่อบุโพรงมดลูกบางส่วนไปเจริญผิดที่อยู่นอกโพรงมดลูก เช่น ที่รังไข่ ท่อนำไข่ กระเพาะปัสสาวะ หรือ เนื้อเยื่องต่างๆ ที่ยึดมดลูกไว้ ในกรณีที่ไปเกิดที่ผิวของรังไข่มักจะกลายเป็นถุงน้ำ หรือ ซีสต์ มีขนาดเท่าไข่ไก่ หรือ ผลส้ม ที่มีเลือดคั่งอยู่ข้างในเรียกว่า ถุงน้ำช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate cyst)

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าจะเกิดจากมีเยื่อบุโพรงมดลูกที่ปนอยู่ในเลือดประจำเดือนไหลย้อนผ่านท่อรังไข่เข้าไปฝังตัวอยู่ตามที่ต่างๆ ดังกล่าวแล้ว โดยเยื่อบุเหล่านนี้จะมีการเปลี่ยนแปลง คือ เกิดการหนาตัวมีเลือดคั่ง และมีเลือดออกเป็นวงจรทุกเดือน เช่นเดียวกับเยื่อบุที่อยู่ในโพรงมดลูก จึงเกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ จนเกิดเป็นพังผืดดึงรั้งอยู่ภายในช่องท้อง ทำให้เกิดอาการปวดท้องเรื้อรัง

ช็อกโกแลตซีสต์มีอาการอย่างไร?

บางกลุ่มไม่มีอาการผิดปกติ แต่มีการตรวจพบโรคโดยบังเอิญจากการตรวจเช็คสุขภาพประจำปี ตรวจภายใน การเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นๆ การผ่าตัดอย่างอื่น หรือมาปรึกษาแพทย์เรื่องมีบุตรยาก แต่อย่างไรก็ตามอาจมีสัญญาณเตือนให้สังเกตได้ดังนี้

  • มีอาการปวดประจำเดือน ซึ่งจะปวดรุนแรงในช่วงวันแรก ของการมีประจำเดือน หรืออาจมีอาการปวดก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน
  • มีการปวดประจำเดือนครั้งแรกเมื่ออายุมากว่า 25 ปี
  • ปริมาณประจำเดือนมากกว่าปกติ หรือ กระปริดกะปรอย
  • ปวดท้องน้อยระหว่างมีเพศสัมพันธุ์
  • คลำพบก้อนที่บริเวณท้องน้อยซึ่งเกิดจากขนาดถุงน้ำที่รังไข่โตขึ้น
  • ปวดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ หรือปัสสาวะ

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นโรคช็อกโกแลตซีสต์

  • โรคนี้พบได้บ่อยในสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีอายุ 25-40 ปี และมีโอกาสเป็นได้มากขึ้น ถ้ามีแม่ หรือ พี่น้องเป็นโรคนี้มาก่อน แต่ก็อาจพบในวัยหมดประจำเดือนได้

จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคนี้หรือไม่?

จากการซักประวัติ และหากมีอาการดังกล่าวข้างต้น แพทย์จะตรวจร่างกายร่วมกับ ตรวจภายในและอัลตร้าซาวด์โพรงมดลูก ซึ่งแพทย์จะอัลตร้าซาวด์ เพื่อดูความผิดปกติของมดลูก รังไข่ ผ่านหน้าจอแสดงผล โดยข้อดีของการตรวจด้วยวิธีนี้คือ ไม่จำเป็นต้องอดอาหารหรือดมยาสลบ

นอกจากนี้ยังมีวิธีตรวจด้วยส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง (Laparoscopy) โดยเปิดแผลขนาดเล็กๆ ที่บริเวณของล่างสะดือ และบริเวณเหนือหัวหน่าว เพื่อใส่เครื่องมือ หรือ กล้องผ่านแผลนี้ไปดูมดลูก รังไข่ ช่องท้องให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น การตรวจด้วยวิธีนี้จะทำภายใต้การดมยาสลบ และแพทย์ผู้ชำนาญการ ข้อดีคือ หากพบพังผืดจะสามารถ ผ่าตัดได้เลย

การรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

  • ในรายที่ไม่มีอาการ หรือ รุนแรงไม่มาก แพทย์อาจให้สังเกตอาการและติดตามการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ
  • ในรายที่มีอาการแพทย์จะรักษาโดยการใช้ยา หรือ หากใช้ยาแล้วไม่ได้ผลอาจจำเป็นต้องผ่าตัด

การผ่าตัดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

การผ่าตัดมีหลายวิธี อาจจะตัดเฉพาะตำแหน่งของโรค หรือ สลายพังผืดออก โดยยังคงเก็บมดลูก ท่อนำไข่และรังไข่ไว้สามารถผ่าตัดโดยการส่องกล้อง ผ่านทางหน้าท้องแผลจะมีขนาดเล็ก ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย ทำให้ลดอาการปวดประจำเดือน และเพิ่มความสามารถในการมีบุตรได้ดีขึ้น ในรายที่เป็นมาก หรือ ผู้ที่มีอาการรุนแรงและมีบุตรเพียงพอแล้ว แพทย์อาจพิจารณาแนะนำให้ผ่าตัดเอามดลูกและตัดรังไข่ออกข้างเดียว หรือ ทั้งสองข้างแล้วแต่ความรุนแรงของโรค

เทคโนโลยีผ่าตัดส่องกล้อง รักษาช็อกโกแลตซีสต์

การผ่าตัดในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดเป็นแผลขนาดใหญ่เหมือนในอดีต การผ่าตัดส่องกล้องจะเปิดเพียงแผลขนาดเล็กใต้สะดือ ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วใส่แก๊ส ผ่านทางเข็มบริเวณแผลนี้เข้าไปในช่องท้อง ทำให้เกิดเป็นช่องว่างในอุ้งเชิงกราน แล้วใช้กล้องขยายขนาดเล็กสอดผ่านแผลบริเวณสะดือ เพื่อช่วยให้มองเห็นอวัยวะภายในและทำการผ่าตัดได้

การผ่าตัดตัดส่องกล้องจะทำให้มีแผลขนาดเล็ก เกิดการบอบช้ำของอวัยวะภายในได้น้อยกว่าทำให้หลังผ่าตัดอาการปวดแผลผ่าตัดจะน้อย และใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่าการผ่าตัดแบบเปิดแผลขนาดใหญ่ สามารถรับประทานอาหารได้เร็วและทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วมากขึ้น ไม่ต้องทนทรมานกับอาการปวดและรอยแผลเป็นขนาดใหญ่

หากคุณผู้หญิงที่มีอาการดังกล่าวข้างต้นตามที่กล่าวมา ควรมาพบแพทย์ แผนกสูตินรีเวช เพื่อตรวจวินิจฉัยได้อย่างตรงจุด

 

แผนกสูตินรีเวช

โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา https://bit.ly/3e83UBL
โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา https://bit.ly/37A0ntK
โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ https://bit.ly/2Y2Wc6u
โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์ https://bit.ly/3e1G2jf
โรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์ https://bit.ly/2LaTDM7
โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี https://bit.ly/3sgndAe

SHARE