
โรคข้อเสื่อม เป็นโรคข้อเรื้อรัง ชนิดหนึ่ง ที่มีความผิดปกติหลากหลายที่พบได้จากพยาธิสภาพ และจากภาพเอกซเรย์ เริ่มต้นจากมีการสึกกร่อนของกระดูกข้อต่อ ส่งผลให้เริ่มมีช่องว่างข้อต่อแคบลง ขนาดของกระดูกข้อต่อใหญ่ขึ้น หรือมีกระดูกงอก ร่วมกับมีการยีด หรือหย่อนยานของเอ็น และกล้ามเนื้อรอบข้อจนส่งผลให้ระยะสุดท้ายมีการผิดรูปของข้อต่อเกิดการคดงอ หรือ ข้อโก่งได้
โรคข้อเสื่อม เกิดขึ้นได้อย่างไร
โรคข้อเสื่อม เป็นโรคข้อเรื้อรัง ชนิดหนึ่ง ที่มีความผิดปกติหลากหลายที่พบได้จากพยาธิสภาพ และจากภาพเอกซเรย์
เริ่มต้นจากมีการสึกกร่อนของกระดูกข้อต่อ ส่งผลให้เริ่มมีช่องว่างข้อต่อแคบลง ขนาดของกระดูกข้อต่อใหญ่ขึ้น หรือมีกระดูกงอก ร่วมกับมีการยีด หรือหย่อนยานของเอ็น และกล้ามเนื้อรอบข้อจนส่งผลให้ระยะสุดท้ายมีการผิดรูปของข้อต่อเกิดการคดงอ หรือ ข้อโก่งได้
ในปัจจุบันยังไม่มีใครทราบว่า โรคข้อเสื่อมเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สาเหตุหลัก มักเกิดจากการมีแรงกระทำที่ข้อต่อซ้ำๆ มากกว่าปกติ
บุคคลใดที่มีความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม ?
- ภาวะอ้วน ซึ่งมักพบว่าภาวะอ้วนกับโรคข้อเสื่อมมีความสัมพันธ์กันโดยตรง ซึ่งอาการของโรคจะดีขึ้นเมื่อน้ำหนักลดลง
- ความหนาแน่นของกระดูก พบว่าในเพศหญิงที่มีข้อเสื่อม มักมีความหนาแน่นของกระดูกมากกว่าเพศหญิง ที่ไม่มีข้อเสื่อม ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากกระดูกใต้กระดูกอ่อนที่ห่อหุ้มอยู่มีความแข็งตัวมากไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกต่อกระดูกอ่อนได้ดี จึงทำให้เกิดการสึกหรอได้ง่าย
- โรคความผิดปกติของข้อบางชนิด ซึ่งมักส่งผลให้ผิวของข้อไม่เรียบหรือมีข้อต่อเคลื่นไปจากปกติจึงทำให้เกิดความเสื่อมของข้อตามมาได้
- ภาวะบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวข้อโดยตรง ทำให้ผิวข้อไม่เรียบ หรือไม่เข้าที่
- ลักษณะอาชีพ พบว่าในอาชีพที่ต้องงอเข่าบ่อยๆ หรือนักกีฬาบางประเภท เช่น นักวิ่งมาราธอน ซึ่งมักพบปัญหาของข้อเสื่อได้บ่อยมากกว่าคนทั่วไป ประวัติครอบครัว (กรรมพันธ์) ในเพศหญิงที่มีมารดาเป็นข่อเสื่อม มีโอกาสเป็นข้อเสื่อมมากกว่าคนทั่วไป

บุคคลใดมีความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม ?
- ผู้ที่มีอายุในช่วง 45-50 ปี
- พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
- ผู้ที่มีอายุมากว่า 65 ปี จะพบข้อเข่าเสื่อมจากภาพเอกซเรย์ ประมาณ 50%
- ผู้ที่มีอายุมากว่า 75 ปี จะพบข้อเสื่อมอย่างน้อย 1 ข้อ แต่มักไม่มีอาการ
อาการของโรคข้อเสื่อมเป็นอย่างไร
- ปวดข้อ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกจะมีอาการหลังจากการใช้ข้อนานๆ เมื่อพักอาการจะดีขึ้นระยะหลังจะมีอาการปวดตลอดแม้กระทั่งเวลานอน
- ตึงขัดข้อ แต่ควรเป็นระยะสั้นๆ (ไม่เกิน 15 นาที) และอาการจะแย่ลงเมื่ออากาศเย็น
- สูญเสียการเคลื่อนไหว ซึ่งขึ้นอยุ่กับตำแหน่งของข้อที่เสื่อม เช่น ที่ข้อนิ่วมือจะมีอาการเหยีดมือลำบาก หรือถ้าเป็นข้อสะโพกก็จะเดินลำบาก
- ข้อไม่มั่นคงแข็งแรง ซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อรอบข้อลีบลงนั่นเอง
- ข้อบวมและผิดรูป ซึ่งมักเห็นได้ชัดในข้อเข่าที่ผิดรูป โก่ง หรือกางออก ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของโรค ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกอ่อน กระดุ และเนื้อเยื่อรอบข้อ ถูกทำลายไปมากแล้ว
มีวิธีการรักษาอย่างไร จะหายขาดหรือไม่
เนื่องจากเราไม่สามารถรักษาข้อที่เสื่อให้หายเป็นขอปกติได้ แต่เราสามารถรักษาเพื่อชะลอการเสื่อมของข้อ หรือผ่อนหนักเป็นเบาได้ซึ่งจุดมุ่งหมายในการรักษาคือ
- บรรเทาอาการปวด
- รักษาหน้าที่หรือทให้หน้าที่การทำงานของข้อใกล้เคียงปกติมากที่สุด
- ป้องกันความพิการของข้อ
แนวทางการรักษา
- รักษาโดยการให้คำแนะนำ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง หรือใช้การทำกายภาพบำบัด เพื่อบรรเทาอาการ
- รักษาโดยการใช้ยา
- รักษาโดยการผ่าตัด
พบแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลสินแพทย์
ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ
(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)