อาการของโรคแผลกระเพาะอาหารและลำไส้ จะมีอาการปวดจุกแน่นท้องที่บริเวณลิ้นปี่ อาจมีคลื่นไส้อาเจียน อาการปวดอาจจะสัมพันธ์กับมื้ออาหาร เช่น หิวแล้วปวด อิ่มแล้วปวด บางรายมีการปวดแสบท้องตอนกลางคืนบ่อยๆ หรือ อาจมาโรงพยาบาล ด้วยอาการแทรกซ้อนจากแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำอาเจียนเป็นเลือด กระเพาะอาหารทะลุ
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โรคแผลเป็บติค หรือ โรคกระเพาะอาหารในความหมายของประชาชนทั่วไปนั้นจริงๆ แล้วในทางการแพทย์ หมายถึง โรคที่เกิดแผลขึ้นที่บริเวณกระเพาะอาหาร รวมถึงลำไส้เล็กส่วนต้น
ดังนั้น เราจึงแบ่งโรคแผลเป็บติคออกเป็น 2 ชนิด ตามตแหน่งที่เกิดแผล คือ
- แผลในกระเพาะอาหาร (Gastric Ulcer)
- แผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น (Duodenal Ulcer)
โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ เกิดขึ้นได้อย่างไร
กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเป็นอวัยวะที่มีน้ำย่อย และกรดเข้มขนที่ใช้ในการย่อยอาหาร ดังนั้น ผนังเยื่อบุของกระเพาะและลำไส้ จึงต้องมีกลไกในการปรับสภาพให้ทนต่อกรด และ น้ำย่อยได้ จึงไม่เกิดแผลในภาวะปกติ แต่มีบางภาวะที่ทำให้สมดุลนี้เสียไป ซึ่งเชื่อว่า อาจเกิดจากการหลั่งกรดที่มากกว่าปกติ หรือ ผนังเยื่อบุอ่อนแอกว่าปกติ จึงทำให้เกิดแผลขึ้นโดยมีสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดแผล ได้แก่
- การติดเชื้อ เอช ไพโลไร (H.pylori)
- การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดข้อ และกระดูก ยาแอสไพริน
- ความเครียด
- ดื่มสุราและสูบบุหรี่
เชื้อ เอช ไพโลไร H.pylori คือ อะไร
H.pylori เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่บริเวณผนังเยื่อบุกระเพาะอาหาร ในประชากรไทยมีโอกาสพบเชื้อนี้ได้ถึง 60-70% เชื้อนี้จะทำให้กระเพาะอาหารมีการหลั่งกรดในปริมาณที่สูงกว่าปกติ และ เชื้อจำทำลายผนังเยื่อบุจนทำให้เกิดแผล
นอกจากนี้ เชื้อ H.pylori ยังเป็นสารก่อมะเร็งในกระเพาะอาหารอีกด้วย เชื้อ นี้จะทำให้แผลกระเพาะอาหารไม่หายขาดและ มีอัตราการเกิดแผลซ้ำได้มากกว่า 90%
อาการของโรคแผลกระเพาะอาหารและลำไส้
จะมีอาการปวดจุกแน่นท้องที่บริเวณลิ้นปี่ อาจมีคลื่นไส้อาเจียน อาการปวดอาจจะสัมพันธ์กับมื้ออาหาร เช่น หิวแล้วปวด อิ่มแล้วปวด บางรายมีการปวดแสบท้องตอนกลางคืนบ่อยๆ หรือ อาจมาโรงพยาบาล ด้วยอาการแทรกซ้อนจากแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำอาเจียนเป็นเลือด กระเพาะอาหารทะลุ
การรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
หากมีการตรวจพบเชื้อ H.pylori จะต้องทำการรักษาและกำจัดเชื้อนี้ หากไม่ได้กำจัดก็จะทำให้ไม่สามารถรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ให้หายขาดได้
ควรรับประทานยารักษาแผลเป็บติคตามคำแนะนำของแพทย์ และอย่าหยุดยาเอง แม้ว่าอาการปวดท้องจะดีขึ้นแล้ว เพราะอาการปวดท้องมักดีขึ้นก่อนการหายของแผล
การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหารส่วนต้น มีประโยชน์อย่างไร
โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ สามารถรักษาให้หายขาดได้ถ้ารักษาอย่างถูกวิธี การตรวจโดยการส่องกล้อง มีความจำเป็นอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคนี้ เพราะการส่องกล้องจะช่วยยืนยันการวินิจฉัยว่ามีแผลจริงหรือไม่ ซึ่งแต่เดิมมักตรวจด้วยการกลืนแป้งแล้วเอ็กซเรยค์ ซึ่งวิธีนี้มักไม่สามารถยืนยันตำแหน่งและขนาดของแผลในกระเพาะอาหารที่ตรวจพบได้ เท่ากับผลที่ได้จากการตรวจส่องกล้องแล้วถ้าแผลจริงขนาดและตำแหน่งของแผล จะเป็นตัวกำหนดระยะเวลาในการรับประทานยาลดกรด อีกทั้งการตรวจด้วยวิธ๊นี้ยังสามารถตรวจหา เชื้อ H.pylori โดยการคีบชิ้นเนื้อเล็กๆ ขนาด 2-3 มิลลิเมตร มาตรวจหาเชื้อหรือตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจพยาธิวิทยาได้ ในกรณีที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
ศูนย์โรคปวดท้อง แผนกระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลสินแพทย์ สามารถตรวจทดสอบการติดเชื้อ เอช.ไพโลไร แบบไม่ส่องกล้อง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจาก สมาคมแพทย์ ระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย ด้วยวิธีการ วัดหาระดับยูเรีย จากลมหายใจ (Urea Breath Test ) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับการตรวจที่มีเพียงไม่กี่แห่ง ในประเทศไทย
พบแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์โรคปวดท้อง แผนกระบบทางเดินอาหาร ตับ และ ทางเดินน้ำดี
ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ (คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)