รู้ทันอันตราย…จากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

19 ก.ย. 2567 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม

หลอดหัวใจตีบ คือ ความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจ พบว่าคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 70,000 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คน และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี



โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือตันเกิดจากหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจแข็งตัว หรือมีไขมันไปเกาะผนังของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบลง ปริมาณเลือดแดงผ่านได้น้อย เป็นผลทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และหากหลอดเลือดแดงตีบแคบมากจนอุดตัน จะทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายได้

 

สัญญาณเตือนหลอดเลือดหัวใจตีบ

  • เจ็บหน้าอกอย่างมากจนทนไม่ได้ เหมือนมีอะไรหนัก ๆ กดทับตรงกลางหน้าอก หรือการเจ็บจากหน้าอกขึ้นไปถึงคาง หรือเจ็บลงไปถึงแขนซ้าย
  • เจ็บแน่นจุกอกหรือจุกใต้ลิ้นปี่ เป็น ๆ หาย ๆ ครั้งละไม่เกิน 20 นาที พอนั่งพักแล้วอาการจะหายไป
  • หายใจหอบ เหนื่อย
  • เหงื่อแตกใจสั่น
  • หมดสติ หรือหัวใจหยุดเต้น (Heart Attack)

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความเสื่อมของหลอดเลือดจากโรคบางอย่าง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น การสูบบุหรี่ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สุดที่ทำให้หลอดเลือดหัวใจเสื่อมอย่างรวดเร็ว กลุ่มเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบโดยส่วนมากจึงมักเป็นกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไปที่มีโรคประจำตัว ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้มีทั้งสามารถควบคุมได้ และไม่สามารถควบคุมได้

ปัจจัยเสี่ยงที่คุมไม่ได้ ดังนี้

  • อายุ
  • พันธุกรรม
  • เพศ

ปัจจัยเสี่ยงที่คุมได้ ดังนี้

  • โรคความดันโลหิตสูง
  • การสูบบุหรี่
  • ระดับไขมันในเลือด
  • โรคเบาหวาน
  • การขาดการออกกำลังกาย
  • ความอ้วน

วิธีลดความเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจตีบ 

เราสามารถลดความเสี่ยงโรคนี้ได้ด้วยการลดปัจจัยที่ควบคุมได้ ดังนี้

  1. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ พฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของหลอดเลือดหัวใจได้ในระดับหนึ่ง
  2. คุมโรคประจำตัวให้ดี หากคนไข้มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง การคุมโรคเหล่านี้ให้ดีจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบได้มาก

 

หลอดเลือดหัวใจตีบเป็นภาวะอันตรายที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน หากมีอาการที่สงสัยว่าอาจเข้าข่ายเป็นโรคนี้ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม ดูแลโดยอายุรแพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคหัวใจ

SHARE