ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง มักมีความคล้ายคลึงกับโรคสมองเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ ซึ่งจะมีอาการหลงลืม พูดจาสับสน และมีความคล้ายคลึงกับอาการของผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน โดยจะมีปัญหาเรื่องการก้าวเดิน ตอบสนองช้าร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจทำให้คนใกล้ชิดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย จึงไม่พาผู้ป่วยมาพบแพทย์ ส่งผลให้ผู้ป่วยพลาดโอกาสจะกลับมาใช้ชีวิตดังเดิมได้ ดังนั้นหากสังเกตอาการคนใกล้ชิดแล้วไม่แน่ใจ ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดจะเป็นการดีที่สุด
ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองเกิดจาก
การที่สมองมีน้ำหล่อเลี้ยงสะสมอยู่ภายในมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการผิดปกติ คล้ายความจำเสื่อม พูดจาสับสน พูดไม่ได้ประโยค หรือไม่ได้ใจความ ร่วมกับมีปัญหาเรื่องการเดิน เช่น เดินไม่ตรง เดินช้า ยกเท้าออกจากพื้นช้า เดินลากเท้า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องการกลั้นปัสสาวะร่วมด้วย
สาเหตุภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง
ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้เองโดยไม่มีสาเหตุ หรือ เกิดขึ้นตามหลังสาเหตุอื่นๆ เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยเส้นเลือดสมองโป่งพอง และเกิดการแตก มีเลือดคั่งในโพรงสมอง มีเส้นเลือดสมองตีบ จนเกิดอาการคล้ายเป็นอัมพฤกษ์ จึงเริ่มพบภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองตามมา หรือเกิดภายหลังจากประสบอุบัติเหตุทางสมองอย่างรุนแรง ซึ่งสามารถพบในผู้ป่วยอายุน้อยได้ หรือเกิดภายหลังจากการเป็นเนื้องอกของสมอง แล้วรับการผ่าตัด ซึ่งทำให้เกิดน้ำคั่งในโพรงสมองตามมาได้ หากผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที จะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยหายกลับมาเป็นปกติได้
การรักษาภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง
แพทย์จะทำการเจาะและใส่ อุปกรณ์ถาวารเพื่อระบายน้ำที่คั่งในโพรงสมอง (VP Shunt) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถปรับระดับแรงดันในการระบายให้เหมาะสมกับสภาพผู้ป่วย ได้จากภายนอกร่างกาย ไม่ต้องผ่าตัดซ้ำใหม่เหมือนในอดีต อุปกรณ์ที่ใช้ปรับจะมีขนาดเล็กๆ มาประกบที่ศีรษะแล้วส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปปรับแรงดันของอุปกรณ์ภายใน ผู้ป่วยจะปลอดภัย ไม่เจ็บตัว ใช้เวลาในการปรับไม่เกิน 1 นาที จึงไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล ทำในลักษณะผู้ป่วยนอกได้
อาการภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง
ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง มักมีความคล้ายคลึงกับโรคสมองเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ ซึ่งจะมีอาการหลงลืม พูดจาสับสน และมีความคล้ายคลึงกับอาการของผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน โดยจะมีปัญหาเรื่องการก้าวเดิน ตอบสนองช้าร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจทำให้คนใกล้ชิดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย จึงไม่พาผู้ป่วยมาพบแพทย์ ส่งผลให้ผู้ป่วยพลาดโอกาสจะกลับมาใช้ชีวิตดังเดิมได้ ดังนั้นหากสังเกตอาการคนใกล้ชิดแล้วไม่แน่ใจ ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดจะเป็นการดีที่สุด
พบแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์สมอง แผนกศัลยกรรมระบบประสาทและสมอง โรงพบาบาลสินแพทย์
ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ
(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)