
ปอดอักเสบ (Pneumonitis) หรือ ปอดบวม เป็นการอักเสบของเนื้อปอด โดยเฉพาะปอดอักเสบจากการติดเชื้อ ในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และ ผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำ หากมีอาการรุนแรง อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคปอดอักเสบ
ปอดอักเสบ (Pneumonitis) หรือ ปอดบวม เป็นการอักเสบของเนื้อปอด โดยเฉพาะปอดอักเสบจากการติดเชื้อ ในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และ ผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำ หากมีอาการรุนแรง อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคปอดอักเสบ
สาเหตุ โรคปอดอักเสบ
- ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ หรือ Pneumonia (ปอดบวม) เกิดจากการที่เชื้อเข้าสู่ปอดแล้วทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอด เนื้อเยื่อปอด ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา
- เชื้อแบคทีเรียที่พบมักได้แก่ เชื้อ Strepto coccus pneumonia เชื้อ Haemophilus influenza type b, เชื้อ Chlamydia pneumoniae, เชื้อ Legionella spp และเชื้อ Mycoplasma pneuoniae
- เชื้อไวรัส ได้แก่ เชื้อ Respiratory Syneytial virus (RSV) เชื้อ Influenza หรือ เชื้อไข้หวัดใหญ่
- เชื้อรา จากมูลนก หรือ ซากพื้ชซากสัตว์
2. ปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
- เกิดจากการหายใจเอาสารที่ก่อให้เกิด การระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่น ควัน สารเคมี
- การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาเคมีบำบัด และยาสำหรับควบคุมการเต้นของหัวใจ บางชนิด
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ
โรคปอดอักเสบ สามารถเกิดได้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย แต่พบบ่อยในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และพบมากในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยเสียงอื่นๆ ดังนี้
- ผู้ป่วยที่รักษาตัวให้อยู่ในห้อง ICU
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ
- ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังให้ยาเคมีบำบัด หรือได้รับยากดภูมิเป็นเวลานาน
- ผู้ที่สูบบุหรี่
สามารถรับเชื้อที่ทำให้ปอดอักเสบทางใดบ้าง
- ไอ จาม หรือ หายใจรดกัน ซึ่งเป็นการหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในอากาศ ที่เป็นละอองฝอยขนาดเล็ก เข้าสู่ปอดโดยตรง
- การสำลักเชื้อ ที่อยู่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบน เข้าสู่ปอด เช่น สำลักน้ำลาย อาหาร สารคัดหลั่งในทางเดินอาหาร ซึ่งอาจพบได้ในผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการกลืน หรือผู้ป่วยเรื้อรังต่างๆ
- การติดเชื้อจากกระแสโลหิต แพร่เข้าสู่ปอด เช่น ผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะ หรือ ใส่สายเข้าทางหลอดเลือดดำ เป็นเวลานานๆ
- ติดเชื้อลุกลามจากอวัยวะข้างเคียงปอด เช่น ฝีในตับแตกเข้าสู่เนื้อปอด หรือ ฝีอวัยวะภายในใกล้เคียงปอด
- การทำหัตถการบางอย่าง เช่น การส่องกล้องหลอดลม ดูดเสมหะ การใช้เครื่องช่วยหายใจ เครื่องมือทดสอบสมรรถภาพปอด ที่มีการปนเปื้อน ต่างๆ
การตรวจวินิจฉัยโรคปอดอักเสบ
- แพทย์ซักประวิติ สอบถามอาการ ตรวจร่างกาย
- อาการไอแบบมีเสมหะ มีไข้ และหายใจหอบเหนื่อย
- ตรวจร่างกาย ฟังเสียงปอด
- เอ็กซเรย์ปอด
- ตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจแยกเชื้อ
- ตรวจนับเม็ดเลือดขาวในเลือด เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่
- ตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
- ตรวจและเพาะเชื้อจากเสมหะและเลือด เพื่อหาสาเหตุ
อาการโรคปอดอักเสบ
การรักษาจะแตกต่างกันไปตามลักษณะอาการและเชื้อที่เป็นสาเหตุทำให้ปอดอักเสบ และต้องเฝ้าระวังอาการ โดยเฉพาะหากพบอาการปอดอักเสบ ของผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และในช่วงที่มีการระบาด ลักษณะอาการที่สำคัญของปอดอักเสบมี ดังนี้
- ไอมีเสมหะ
- เจ็บหน้าอก ขณะหายใจ หรือ ขณะไอ
- หายใจเร็ว หายใจหอบ หายใจลำบาก
- มีไข้ เหงื่ออก หนาวสั่น
- คลื่นไส้ อาเจียน หรือ ท้องเสีย
- อ่อนเพลีย
- ในผู้สูงอายุ มีอาการซึม ความรู้สึกสับสน อุณหภูมิในร่างกายต่ำกว่าปกติ
- เด็กเล็ก อาจมีอาการท้องอืดร่วมด้วย อาเจียน ซึม ไม่ดูดนมหรือน้ำ
อาการและความรุนแรงของโรคปอดอักเสบ จะแตกต่างกันไปในแต่ละรายบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อที่ได้รับ ภูมิต้านทาน อายุ และ สภาพร่างกายของแต่ละคน
การรักษาโรคปอดอักเสบ
การรักษาโรคปอดอักเสบ เป็นการรักษาอาการปอดอักเสบร่วมกับการป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากภาวะปอดอักเสบ
- การใช้ยาปฏิชีวนะ จะใช้ในกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเลือกใช้ยาปฏิชีวนะตามเชื้อที่ตรวจพบ
- การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ สำหรับผู้ป่วยปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส และเชื้ออื่นๆ แพทย์จะพิจารณาให้ยาลดไข้ ยาขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะ ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจจำเป็นต้องให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ให้ออกซิเจน และทำกายภาพบำบัดทรวงอก หรือหากมีอาการรุนแรงมากๆ อาจจำเป็นต้องใช้ท่อช่วยหายใจ
- การรักษาภาวะแทรกซ้อน บางรายอาจพบฝีในปอด มีภาวะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด ซึ่งจำเป็นต้องให้ยาขับน้ำออก หรือ ดูดออก ในรายที่มีอาการรุนแรงมากผู้ป่วยอาจมีภาวะหายใจล้มเหลว ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต และจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ร่วมกับเครื่องช่วยหายใจ
การป้องกันโรคปอดอักเสบ
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ แพทย์แนะนำให้ฉีดวัคซีนในกลุ่มเสียงที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานต่ำหรือมีโรคประจำตัว และแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปอดอักเสบ
การปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปอดอักเสบ
- ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่
- ดูแลสุขอนามัย หมั่นล้างมือเป็นประจำ และ หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน
- หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือ อากาศที่หนาวเย็น
- เมื่อเป็นไข้หวัดควรรีบรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาให้หายตั้งแต่เนิ่นๆ
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่ดื่มสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
พบแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์โรคระบบทางเดินหายใจและปอด ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ
(คลิก link เพื่อนัดพับแพทย์เฉพาะทาง)