Nirsevimab ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ป้องกัน RSV สำหรับทารกแรกเกิด เด็กคลอดก่อนกำหนด และเด็กกลุ่มเสี่ยง ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลดความเสี่ยงโรครุนแรงในเด็กเล็ก ด้วยภูมิคุ้มกันเฉพาะทาง

RSV คืออะไร?

RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ซึ่งไวรัสชนิดนี้เป็นสาเหตุสำคัญของโรค หลอดลมฝอยอักเสบ (bronchiolitis) และ ปอดอักเสบ (pneumonia) ที่รุนแรง โดยเฉพาะในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี แม้ว่า RSV จะพบได้ตลอดปี แต่จะระบาดหนักในช่วงฤดูฝนและต้นฤดูหนาวในประเทศไทย ซึ่งเด็กเล็กและทารกแรกเกิดถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่พัฒนาเต็มที่

ทำไม RSV ถึงอันตราย?

• เด็กเล็กที่ติดเชื้อ RSV มักมีอาการไอ หายใจหอบ และเหนื่อย

• เสี่ยงสูงต่อการนอนโรงพยาบาล โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน

• เด็กที่คลอดก่อนกำหนด หรือมีโรคประจำตัว (เช่น หัวใจ-ปอด) มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

 

Nirsevimab คืออะไร?

Nirsevimab เป็น “ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป” หรือ โมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อป้องกันไวรัส RSV โดยทำงานคล้ายภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ แต่ให้การป้องกันแบบทันทีและยาวนาน

จุดเด่นของ Nirsevimab

• ป้องกัน RSV ได้ นานถึง 5 เดือน ด้วยการฉีดเพียง ครั้งเดียว
• ใช้ได้กับทารกแรกเกิด เด็กคลอดก่อนกำหนด และเด็กอายุไม่เกิน 24 เดือน
• เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของหลายประเทศ รวมถึงไทย
• ไม่ใช่วัคซีน แต่เป็นภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ไม่ต้องรอให้ร่างกายสร้างภูมิเอง

เหมาะกับใครบ้าง?

1. ทารกแรกเกิดถึง 24 เดือน โดยเฉพาะในช่วงฤดูระบาด

2. เด็กที่คลอดก่อนกำหนด

3. เด็กที่มีโรคหัวใจ, โรคปอดเรื้อรัง, หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

4. เด็กที่มีพี่น้องไปโรงเรียนหรืออยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งเสี่ยงรับเชื้อ

 

ควรฉีดเมื่อใด?

ควรได้รับ Nirsevimab ก่อนเข้าสู่ฤดูระบาดของ RSV โดยเฉพาะในช่วงเดือน มิถุนายน–ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงการระบาดหลักในประเทศไทย

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

• Nirsevimab ไม่ใช่วัคซีน และไม่ใช้ทดแทนวัคซีนอื่น ๆ แต่เป็นภูมิคุ้มกันเฉพาะ RSV

• ไม่แนะนำสำหรับเด็กที่เคยมีประวัติแพ้สารประกอบใน Nirsevimab มาก่อน

• ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนฉีด

 

การป้องกัน RSV ในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม Nirsevimab จึงเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยรุนแรงในเด็ก และช่วยลดโอกาสการนอนโรงพยาบาลได้อย่างมีนัยสำคัญ

ปกป้องลูกน้อยตั้งแต่วันนี้ ด้วยภูมิคุ้มกันเฉพาะทาง เพียงเข็มเดียว… ลูกปลอดภัย พ่อแม่มั่นใจ