โบท็อกซ์ คือ สาร Clostridium Botulinum ที่มีอยู่ในธรรมชาติผ่านกรรมวิธีทำให้บริสุทธิ์แล้วฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อหยุดการหดตัวชั่วคราวไม่ให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น การฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่งผลให้เกิดผลที่ดีมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเจ็บปวดขณะฉีดน้อย
โบท็อกซ์ ทำงานอย่างไร ?
- จะไปยับยั้งการหลั่งสาร (Acetycholine) ที่ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวอยู่บริเวณปลายประสาท ผู้ที่ถูกฉีดยังคงแสดงสีหน้าได้ตามปกติ และใช้กล้ามเนื้อบริวณใบหน้าได้เหมือนเดิมเพียงแต่จะมีการคลายตัวของกล้ามเนื้อในกลุ่มที่ทำให้เกิดริ้วรอย
- จะมีผลอยู่เพียงชั่วคราว ประมาณ 4 เดือน การรักษาริ้วรอยด้วยวิธีนี้มีความรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่าตัด และ ไม่มีแผลเป็น
ประสิทธิภาพหลังการฉีดโบท็อกซ์
ภายใน 72 – 84 ชั่วโมง หลังฉีดกล้ามเนื้อที่เป็นตัวทำให้เกิดริ้วรอยนั้นจะค่อยๆ เริ่มคลายตัวอย่างช้า ๆ และสามารถสังเกตได้ว่าริ้วรอยเหล่านั้นค่อยเลือนหายไป สารนี้จะค่อยๆ หมดฤทธิ์ลงตามระยะเวลาดังกล่าว ผู้ที่ถูกฉีดก็จะกลับไปเหมือนกับตอนก่อนฉีดเท่านั้น ไม่ได้แย่ลงกว่าเดิมแต่อย่างใด
การปฏิบัติตัวก่อน – หลังฉีดโบท็อกซ์
ก่อนฉีดโบท็อกซ์
- หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ เอเอชเอ สครับขัดหน้า เป็นเวลา1-2 วันก่อนการฉีดโบท็อกซ์
- หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen,Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เป็นเวลา1 สัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
- งดแอลกอฮอล์ไม่ 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา
- ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา
หลังฉีดโบท็อกซ์
- สามารถกลับไปทำงานหรือกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่ต้องอยู่ในท่าที่ศีรษะตั้งตรง ประมาณ 4 ชั่วโมง
- อย่านวด กด หรือกระทำการอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษา เช่น สวมหมวกกันน็อค หรือนวดหน้า
- งดการอยู่ในที่ร้อนเช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อนเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
- รอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
- งดเว้นการออกกำลังกายอย่างหนักหรือการเล่นโยคะเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการรักษา
- งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น กรดวิตามินเอ เอเอชเอ วิตามินซี เป็นเวลา 24ชั่วโมงหลังการรักษา
- พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
- สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
- สามารถใช้เครื่องลำอางได้หลังจากการรักษาด้วยความนุ่มนวลหลีกเลี่ยงการกดถู
- ผู้ป่วยจะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 2-7 วัน และเห็นผลการรักษาสูงสุดในสองสัปดาห์
- กลับมาพบแพทย์เมื่อมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใดๆ
ใครที่สามารถฉีดโบท็อกซ์
- ทั้งเพศหญิง และชายที่อายุมากกว่า 12 ปี ที่มีปัญหาริ้วรอยมากกว่าวัย
ใครไม่ควรได้รับการฉีดโบท็อกซ์
- ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบปลายประสาทส่วนปลาย
- ผู้ป่วยที่กำลังได้รับยาปฏิชีวนะบางตัว
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตเวช
ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีการทำ Botox
- เป็นการรักษาที่ง่าย ใช้เวลาน้อย
- เห็นผลชัดเจนภายใน 1 – 2 สัปดาห์
- ไม่เจ็บปวดและไม่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
- ไม่มีบาดแผล และสามารถทำงานได้ตามปกติ
- ปลอดภัยได้รับการรับรองจาก FDA และ อย. ประเทศไทย
Botox 100 Unit (Allergan)
หมายเหตุ : ราคาดังกล่าวรวมค่าแพทย์ และค่าบริการของรพ.
ราคา 23,500 บาท