เป็นภาวะการทำงานของลำไส้ที่ผิดปกติ ทำให้มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง ร่วมกับการขับถ่ายผิดปกติ ปัจจุบัน โรคนี้พบบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย สามารถพบได้ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงอายุ 40-50 ปี
เนื่องจากยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนของโรคได้ แพทย์จึงเน้นการรักษาตามอาการ แต่สิ่งสำคัญคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหาร เพื่อให้อาการดีขึ้น และลดความถี่ในการกลับมาเกิดซ้ำ
โรคนี้ถ้าได้รับการตรวจอย่างละเอียด จะไม่พบร่องรอยความผิดปกติใด ๆ ในระบบทางเดินอาหาร และจะไม่กลายเป็นมะเร็งในอนาคต จึงไม่มีอันตราย แต่การวินิจฉัยโรคนี้จำเป็นต้องแยก โรคจากกลุ่มโรคอื่น ๆ ซึ่งอาจมีอาการแสดงคล้ายกัน เช่น โรคมะเร็งลำไส้ โรคกระเพาะอาหารโรคลำไส้อักเสบ เป็นต้น
หากมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น น้ำหนักลด ถ่ายเป็นสีดำ ถ่ายเป็นเลือดหรือมูกเลือด คลำพบก้อนในช่องท้อง ปวดท้องหรือแน่นท้องรบกวนขณะนอนหลับ มีไข้ คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรงควรรีบมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและลำไส้ เพื่อตรวจวินิจฉัยและคัดกรองโรคเพิ่มเติมก่อนจะเป็นโรคร้ายแรง