อาการของระบบทางเดินหายใจ ที่เป็นสัญญาณเตือนหลักของโรคมะเร็งปอด

สำหรับมะเร็งปอด เป็นภัยเงียบร้ายแรงที่คุกคามชีวิตผู้คนมากขึ้นในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ไม่มีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน หลายครั้งผู้ป่วยมักตรวจพบโรคในระยะที่ลุกลาม ดังนั้นการสังเกตอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อรับการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อาการที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงของมะเร็งปอดมีหลากหลาย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจถูกมองข้ามไปได้ง่าย ๆ เนื่องจากในระยะแรกอาการคล้ายกับโรคทางเดินหายใจทั่วไป อย่างไรก็ตามการเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้

 

มะเร็งที่ปอด เกิดจากอะไร

มะเร็งที่ปอด (Lung Cancer) เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติในเนื้อเยื่อปอด เซลล์เหล่านี้สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายผ่านทางกระแสเลือดหรือระบบน้ำเหลือง ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อ มะเร็งปอด ได้แก่ ผู้ที่สูบบุหรี่หรือเคยสูบบุหรี่ ผู้ที่สัมผัสควันบุหรี่มือสอง ผู้ที่สัมผัสกับสารก่อมะเร็ง ผู้ที่สัมผัสมลพิษทางอากาศ ไอระเหยน้ำมัน ฝุ่น PM 2.5 ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด ผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง ผู้ที่เคยได้รับการฉายรังสีบริเวณทรวงอก และผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป

 

สัญญาณเตือนมะเร็งที่ปอด มีอะไรบ้าง

สัญญาณเตือนของมะเร็งปอดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และในระยะเริ่มต้นของโรค ผู้ป่วยจำนวนมากอาจไม่มีอาการแสดงใด ๆ เลย แต่อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด เสียงแหบ หายใจลำบากหรือหายใจมีเสียงหวีด เจ็บหน้าอกหรือไหล่ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อยๆ อย่างไรก็ตามการสังเกตอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญ หากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม

 

มะเร็งที่ปอด มีกี่ชนิด

มะเร็งปอดแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ตามลักษณะของเซลล์มะเร็ง ได้แก่

 

ชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็ก

มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (Non-Small Cell Lung Cancer – NSCLC) เป็นชนิดที่พบได้บ่อย คิดเป็นประมาณ 85% ของมะเร็งปอดทั้งหมด มะเร็งชนิดนี้มีการเจริญเติบโตที่ช้าและมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายช้ากว่ามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก

 

ชนิดขนาดเซลล์เล็ก

มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก  (Small Cell Lung Cancer – SCLC) เป็นชนิดที่พบได้น้อย คิดเป็นประมาณ 15% ของมะเร็งปอดทั้งหมด แต่มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและแพร่กระจายได้ง่ายกว่า มักตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดและรังสีรักษาได้ดีในช่วงแรก แต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำสูง มักพบในผู้ที่สูบบุหรี่จัด

 

มะเร็งที่ปอด แต่ละระยะมีอาการอย่างไร

อาการของมะเร็งปอด ในแต่ละระยะจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่น ๆ

 

ระยะที่ 1 

มะเร็งอยู่ในปอดเท่านั้น ยังไม่แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่น ๆ มักไม่มีอาการแสดงใด ๆ

ระยะที่ 2

มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เคียงกับปอด อาจมีอาการไอเรื้อรัง มีเสมหะ หรือหายใจลำบาก

ระยะที่ 3

มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ห่างไกลจากปอด หรือไปยังอวัยวะใกล้เคียง อาจมีอาการเจ็บหน้าอก หรือไอเป็นเลือด หายใจลำบากอย่างชัดเจน

ระยะที่ 4

มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ที่อยู่ไกลออกไป เช่น ตับ กระดูก ต่อมหมวกไต หรือสมอง อาจมีอาการปวดกระดูกหรืออาการทางระบบประสาท ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่มะเร็งแพร่กระจายไป

 

มะเร็งที่ปอด วินิจฉัยอย่างไรบ้าง

การวินิจฉัย มะเร็งปอด จำเป็นต้องอาศัยการตรวจหลายวิธีร่วมกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับชนิด ระยะ และการแพร่กระจายของโรค วิธีการวินิจฉัยหลัก ๆ ได้แก่ 

• การตรวจร่างกาย  
• การเอกซเรย์ปอด (Chest X-ray)  
• การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)
• การตรวจด้วยเครื่อง PET scan (Positron Emission Tomography scan)
• การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)
• การตรวจอื่น ๆ เช่น การตรวจเสมหะ (Sputum cytology) การเจาะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด (Thoracentesis) เป็นต้น

 

วิธีป้องกันมะเร็งที่ปอด ทำได้อย่างไร

วิธีป้องกันมะเร็งปอดที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคนสูบบุหรี่และการสัมผัสกับสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และเข้ารับการตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำ ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้

 

โปรแกรมตรวจสุขภาพปอด สินแพทย์ นครปฐม

โรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม ตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยมะเร็งปอดในระยะเริ่มต้น เรามีโปรแกรมตรวจสุขภาพปอดที่ออกแบบมาเพื่อตรวจหาความเสี่ยงและอาการเริ่มต้นของมะเร็งปอด อย่างครอบคลุม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยงและการป้องกันมะเร็งปอด ตลอดจนเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย

หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพปอด หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจประเมินและวางแผนการดูแลสุขภาพปอดที่ดีที่สุดสำหรับคุณรวมถึงการเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้สามารถตรวจพบมะเร็งปอดได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้มากยิ่งขึ้น